เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ รอง ผบก.สปพ. สั่งการให้ พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ 191 พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ฐิญาภัณณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พร้อมด้วยของกลางซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่บงทะเบียนแล้วแบะยังไม่ได้ลงทะเบียนจำนวน 1540 ซิม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม บัตรATM 7 ใบ เครื่องอ่านซิมภายนอก(Act sim card) จำนวน 9 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถตลาดแห่งหนึ่ง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบนำซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือมาจดทะเบียนเปิดเบอร์โดยไม่ถูกต้อง ซึ่งซิมการ์ดที่ผิดกฎหมายสามารถสั่งซื้อได้จากแอปพลิเคชันออนไลน์ โดยผู้ที่สั่งซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์อาจจะมีการนำไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรม ทั้งการ เปิดเว็บพนัน หลอกลวง แอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ และฉ้อโกงประชาชน และบางส่วนอาจจะเกี่ยวกับการฟอกเงินในขบวนการค้ายาเสพติด การก่อการร้าย อันเป็นการสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ
เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองบังคับการสายตรวจและ ปฏิบัติการพิเศษ 191 ได้ทำการสืบสวนหาข่าว การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกอบกับได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สุจิตรา” ได้ทำการลงโฆษณาทางกลุ่มเฟสบุ๊คชื่อ “ซิมลงทะเบียนพร้อมใช้งาน/ส่งทั่วไทยปอยเปด” ลักษณะเป็นธุระ จัดหา ซื้อหรือขายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนแล้ว ซึ่งซิมการ์ด โทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนในนามของผู้อื่นแล้ว อาจถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดได้
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อล่อซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้วจำนวน 1,280 ซิม โดยแบ่งเป็นซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่ายทรูมูฟจำนวน 1,160 ซิม ขายราคาซิมการ์ดละ 46 บาท และซิมการ์ดโทรศัพท์เครือข่ายดีเทค จำนวน 120 ซิมการ์ด ขายราคาซิมการ์ดละ 45 บาท โดยนัดส่งมอบกันบริเวณลานจอดรถดังกล่าว กระทั่ง น.ส.ฐิญาภัณณ์ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปลอมตัวเป็นลูกค้าไปรับซิมในรถยนต์ที่จอดภายในลานจอดของตลาด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้นพบของกลางข้างต้น
จากการสอบถาม น.ส.ฐิญาภัณณ์ ยอมรับว่า ซิมการ์ดที่พบนั้นเป็นซิมที่ลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันที่ปอยเปดประมาณ 1 ปี แต่เว็บพนันดังกล่าวก็ได้ปิดตัวลงเนื่องจากเว็บขาดทุน จึงโดนไล่ออกมาแต่เว็บดังกล่าวได้ทิ้งซิมการ์ดที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตนจึงนำมาขายเพื่อหารายได้ โดยจะขายตัดราคาคนขายซิมผีเจ้าอื่นๆเพื่อจะได้ขายให้หมดเร็ว เพราะซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้วมีวันหมดอายุ ยังมีซิมการ์ดบางส่วนอยู่ที่ห้องพัก
เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจยึดซิมการ์ดที่เหลือ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีข้อหาเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัว ผู้ใช้บริการได้ ดำเนินคดีต่อไป.