นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และพันธมิตร จัดงาน มินิ อีอีซี แฟร์ 2024 ระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค. 2567 เพื่อแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมเอสเคิบหรืออุสาหกรรมแห่งอนาคต และยังเป็นเวทีสำคัญที่ใช้กลไกไมซ์ในการเชื่อมโยงนักลงทุนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เชื่อมั่นว่าการเจรจาและการสร้างพันธมิตรเชิงธุรกิจในงานนี้จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยการจัดการงานครั้งนี้ คาดจับคู่เจรจาธุรกิจไม่น้อยกว่า400 คู่ เกิดมูลค้าการซื้อขายไม่น้อยกว่า 45 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางธุรกิจหลายพันล้านบาท
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ จะช่วยให้นักลงทุนเห็นซัพพลายเยอร์ของไทยทั้ง 400 ราย ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงเป็นการสร้างระบบนิเวศน์การลงทุนของไทยให้มีความเข็มแข็ง เพิ่มการลงทุนไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม อาทิ อุตสาหกรรมเวลเนสหรืออุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพที่นักลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนเยอะมาก ต้องไปดูกันต่อว่าในอุตสาหกรรมเวลเนส ว่ามีสินค้าอะไรบ้าง และหมออยู่ที่ใดบ้าง ดังนั้นหากนักลงทุนจะสร้างโรงแรมสักแห่งอาจจะลงทุนสะปาเพิ่มมาด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ สำคัญที่สุดเป็นเรื่องราคาที่ดิน แรงงานเพียงพอ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม และการอำนวยความสะดวกในขั้นตอนออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลต่างๆ ส่วนต้นทุนในด้านต่างๆ ยังไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจมากนัก โดยความกังวลด้านภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควรนั้น มองว่าในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี การใช้เงินที่ดีที่สุดคือใช้เพื่อลงทุน เพราะสามารถใช้เป็นสินทรัพย์ในระยะยาวได้ เปรียบเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ อาทิ ตลาดหุ้น การลงทุนในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี นอกจากจะทำให้ไม่มีกำไรแล้ว หากหุ้นตกลงเงินที่ลงทุนไว้ก็จะหายไปตามด้วย