เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้เรียกผู้ประกอบการรถบัสที่นำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี มาทัศนศึกษา และประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้ โดยให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่าย 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี แต่ปรากฏว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยง และไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็ว ทาง ขบ. จึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่า รถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ใน จ.นครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นพบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังก๊าซที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากการดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงระบบก๊าซ ส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ อีกทั้งมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกร หรือหน่วยงานที่ ขบ. รับรอง ทาง ขบ. จึงได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไป
นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่า ขบ. จะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทาง และไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน.