สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่า งานศึกษาชิ้นใหม่จากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (ไอเออาร์ซี) ขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า การสูบบุหรี่ คิดเป็นประมาณ 85% ของสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดทั่วโลก และถ้าแนวโน้มในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป จะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดเกือบ 3 ล้านราย ในกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 2549-2553
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยโดยใช้แบบจำลอง ที่เผยแพร่ในวารสาร The Lancet Public Health ประมาณการว่า การแบนการจำหน่ายบุหรี่ให้กับประชากรกลุ่มดังกล่าว ซึ่งมีจำนวนราว 650 ล้านคนทั่วโลก อาจป้องกันการเสียชีวิตประมาณ 1.2 ล้านราย ภายในปี 2638 ได้
ทั้งนี้ การศึกษาข้างต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในงานศึกษาชิ้นแรกที่มุ่งเป้าประเมินผลกระทบของคนรุ่นปลอดบุหรี่ ดึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคมะเร็ง และผู้เสียชีวิตจากมะเร็งใน 185 ประเทศ โดยผลการวิจัยพบว่า การเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงทั่วโลก ในสัดส่วนมากกว่า 45% และเกือบ 31% ตามลำดับ สามารถป้องกันได้
แม้แผนริเริ่มเกี่ยวกับคนรุ่นปลอดบุหรี่ ถูกนำมาใช้แล้วในบางประเทศ เช่น นิวซีแลนด์, บางพื้นที่ของออสเตรเลีย และสหรัฐ แต่บรรดาผู้เขียนงานศึกษาของไอเออาร์ซี เน้นย้ำว่า นโยบายดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาสุขภาพจากบุหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบัน.
เครดิตภาพ : AFP