นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่มทรู ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลและ 5 จี มายกระดับบริการทางการแพทย์ โดยได่ร่วมมือกับ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค และเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย ทำโครงการเทเลเฮลท์ ทูเก็ตเธอร์ (Telehealth Together) คลินิกออนไลน์ เพื่อสุขภาพดี โดยได้พัฒนาฟีเจอร์บนแพลตฟอร์มทรู เฮลท์ เพื่อดูแลและช่วยเหลือผู้ป่วย โรคระบบ ทางเดินหายใจ ให้เข้าถึงแพทย์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่าย ผ่านระบบออนไลน์ไม่จำกัด เรื่องเวลาและสถานที่ และได้รับบริการเหมือนกับที่โรงพยาบาล ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในช่วงการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ที่ต้องหลีกเลี่ยง การเดินทาง ลดความเสี่ยงติดเชื้อ จากสถานที่ชุมชนต่างๆ

“ผู้ป่วยสามารถนัดหมายและปรึกษาแพทย์ประจำตัว บนแอพพลิเคชั่น ทรู เฮลท์ เพื่อพูดคุยกับแพทย์ได้แบบเรียลไทม์ ทั้งการโทรฯ แชต และวิดีโอ คอลล์ เพื่อให้ได้รับการรักษาการรักษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม ทรู เฮลท์ ยังช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับแพทย์ สามารถให้คำปรึกษาแก่ ผู้ป่วยได้ตามเวลา นัดหมาย โดยสามารถ ดูประวัติการรักษา ให้คำปรึกษาและบันทึกประวัติการรักษาผ่านแพลตฟอร์มได้ทันที เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานแก่ทีมแพทย์ ให้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันไทยมีการใช้บริการแพทย์ทางไกลเพียง 5% เท่านั้น ขณะที่ในบางประเทศมีสูงถึง 40% ทรูจึงพร้อมสนับสนุน และจะขยายไปยังโรคอื่นๆเพิ่มในอนาคต”

นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย มีผู้ป่วยโรคหืดประมาณ 3 ล้านคน โดยเครือข่ายคลินิกโรคหืดฯ มีเครือข่ายกว่า 1,300 แห่งใน รพ.จังหวัด รพ.ชุมชนทั่วประเทศ มีคนไข้ในเครือข่ายรวมกว่า 600,000 คน แต่การระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยมากกว่าครึ่ง ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่สถานพยาบาลและได้รับยา จึงมีโอกาสที่โรคจะรุนแรงมากขึ้น โครงการนี้จึงจะช่วยให้ได้ พบแพทย์ผ่านเทคโนโลยีและส่งยาให้ที่บ้านได้

นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ จีเอสเค กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยทั่วประเทศเข้าถึงการรักษาและได้รับยา ซึ่งในเบื้องต้นนำร่องใช้กับโรงพยาบาล 15 แห่งที่มีความพร้อม และคาดว่าจะสามารถขยายเพิ่มมากกว่า 100 แห่งในปี 65 และมากกว่า 500 แห่งในปีถัดไป โดยผู้ป่วยที่มีสิทธิบัตรทองสามารถใช้งานแพลตฟอร์มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม.