เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 67 พล.ต.ต.ปราถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (นปพ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง นำโดย พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง ผกก.ป.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ต.สุภกร แสงจันทร์ สว.สส.สภ.บางบัวทอง พร้อมกำลังชุดสืบสวน เข้าทำการจับกุมร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ที่ตลาดบัวทอง 3 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติด และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 3 นัด และยาเสพติดประเภทยาไอซ์ ยาอี ยาเคตามีน บรรจุถุงซิปเล็กๆ พร้อมจำหน่ายอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์เป็นจำนวนมาก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย คือ Mrs.Ho thi bien (โฮ ที เบียน) อายุ 28 ปี Mr.Hoang duc anh (ฮวาง ดึก ไอ) อายุ 35 ปี Mr.Nguyen huu long (เวียน ฮู ลอง) อายุ 31 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ต้องใช่ล่ามในการแปลภาษา เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การอ้างว่าเจ้าของร้านเป็นคนไทย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เป็นเพียงแค่ผู้ดูแลเท่านั้น ได้รับเงินค่าจ้างคนละ 15,000 บาท ต่อเดือน
พ.ต.อ.พฤฒ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่า ในพื้นที่มีชาวต่างชาติลักลอบเปิดร้านคาราโอเกะ และได้มีการมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปราม ชุดสืบสวนบางบัวทอง และสืบสวนจังหวัดนนทบุรี เข้าบุกค้นร้านคาราโอเกะดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่ายังไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการ จากการตรวจค้นภายในร้าน พบยาเสพติดจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาอี ยาเค และยาไอซ์ อยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ จึงยึดไว้เป็นของกลาง ขอให้มั่นใจว่าในพื้นที่บางบัวทอง จะไม่ปล่อยให้มีการเปิดสถานประกอบการมั่วสุมยาเสพติดอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ ซึ่งร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 10 วัน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ไปได้
พ.ต.อ.พฤฒ กล่าวอีกว่า ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริกา รสืบทราบมาว่าเป็นลูกค้าเฉพาะสัญชาติเวียดนามเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจได้จับตาดูมาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งวันนี้ จึงได้เข้าทำการตรวจค้น ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติสัญชาติเวียดนามทั้งหมด 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืน 1 กระบอก กระสุน 3 นัด และยาเสพติด ซึ่งการมั่วสุมเสพยาไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว การจับกุมลักษณะแบบนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสเมื่อไหร่ จะทำการเข้าจับกุมทันที ไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน
เบื้องต้นแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเป็นต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่มีใบอนุญาต หลังจากนี้จะทำการปิดร้านดังกล่าว และออกหมายเรียกเจ้าของร้านซึ่งเป็นคนไทย มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป