เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี เพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “เจ้าข้าเอ๋ย…บอสพอล ข่มขู่ผู้เสียหายที่ไปแจ้งความ โดยการเอากองปราบฯ ให้ไปบุกค้นบ้านผู้เสียหาย เจ้าข้าเอ๋ย…” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์นั้น
“ดิ ไอคอน” อีกหนึ่งบทเรียน แชร์ลูกโซ่!!ที่ไม่เคยหมดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพตำรวจกองบังคับการปราบ นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งของผู้เสียหายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 67 หรือช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบันตามที่เพจดังกล่าวมีการนำเสนอ โดยที่มาของการเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าวนั้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจกองปราบฯ หลังมีนายณัฐนันท์ อายุ 43 ปี สมาชิกของบริษัทรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวข่มขู่ จะก่อเหตุกราดยิงฆาตกรรมหมู่ 300 ศพ ภายในงานเอ็กซ์โป ที่บริษัทกำลังจะจัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 11-12 พ.ค. 67 ซึ่งเป็นงานรวมตัวแทนจำหน่ายของบริษัท
หลังรับเรื่องดังกล่าว ทางตำรวจจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อมูล พร้อมขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมา จึงนำมาสู่การนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายณัฐนันท์ ในพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่จากการตรวจค้นครั้งดังกล่าว เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และไม่พบตัวนายณัฐนันท์ จึงได้แจ้งญาติซึ่งอยู่ ณ สถานที่ดังกล่าว ให้ติดต่อนายณัฐนันท์ เพื่อให้มาพูดคุยและสอบถามเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว
ก่อนที่ต่อมาในวันเดียวกัน นายณัฐนันท์ จะเดินทางมาพบ ตำรวจ กก.4 บก.ป. ที่ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างตนเองและบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พุดคุยเพื่อรับทราบปัญหา ทำความเข้าใจ พร้อมกับตักเตือนเกี่ยวกับการโพสต์คลิปวิดีโอหรือข้อความข่มขู่ และแนะนำให้ไปใช้สิทธิดำเนินคดีกับบริษัทฯ ผู้บริหารบริษัทฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยวิธีการทางกฎหมาย ซึ่งนายณัฐนันท์ ได้รับทราบจนเข้าใจดี ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านไป
ขณะเดียวกันยังได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงของตำรวจกองปราบฯ ว่า กรณีที่เพจดังกล่าวนำเสนอนั้น ไม่เป็นความจริง และ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว คนละช่วงเวลากับเรื่องราวความขัดแย้งในปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายณัฐนันท์ เป็นไปตามหลักกฎหมาย และไม่ได้กระทำเพราะรับคำสั่งจากบุคคลใด เพื่อไปข่มขู่ แต่ที่ต้องเข้าตรวจค้น ก็เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้าย ซ้ำรอยเหตุกราดยิงห้างดังกลางเมืองขึ้นมาเพียงเท่านั้น