เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์หลายข้อความผ่านเฟซบุ๊กในลักษณะที่แสดงความไม่พอใจต่อคนในพรรคบางส่วนนั้น รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าเรื่องนี้มาจากปัญหาเรื่องการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของนายนิพิฏฐ์ ซึ่งนายนิพิฏฐ์รู้สึกน้อยใจว่าตัวเองเป็น ส.ส.มาหลายสมัยและทำงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์มานาน 27 ปี แต่พรรคกลับไม่หารือเรื่องการส่งคนลงสมัคร ส.ส.เขตนี้

โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ ได้นัดรับประทานอาหารพร้อมพบปะหารือกับคณะ ส.ส.และอดีต ส.ส.ภาคใต้ของพรรคฯ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่ามีนายสุพัฒน์ ธรรมเพชร บิดาของ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงานด้วย ทั้งที่นายสุพัฒน์ไม่ได้ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์นานแล้ว

ทั้งนี้ ในช่วงก่อนที่นายจุรินทร์ ยังไม่เข้ามาในงานนั้น นายนิพนธ์ได้แจ้งในวงหารือว่า ในเมื่อหัวหน้าพรรคมาทำกิจกรรมลงพื้นที่ที่ภาคใต้ และตอนนี้มาอยู่ที่ จ.พัทลุง อยากให้ประกาศเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ในพื้นที่ที่ว่างอยู่คือเขตเลือกตั้งที่ 2 ในวันรุ่งขึ้น (21 ต.ค.) ซึ่งทำให้นายนิพิฏฐ์ที่นั่งอยู่ในงาน กล่าวทันทีว่า แบบนี้แสดงว่าพรรคไม่ต้องการให้ตัวเองลงสมัคร ส.ส.อีกแล้วใช่หรือไม่ และตนเคยพูดคุยกับ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง และนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ แล้วว่า ได้วางตัวคนพร้อมลง ส.ส.แทน กรณีถ้าสุดท้ายตัวเองตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่ง น.ส.สุพัชรี และนายนริศ ยังเห็นชอบกับตัวบุคคลที่ตนวางไว้ ขณะที่คนๆ นั้นได้ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แต่พรรคกลับไม่มาพูดคุยกับตนถึงเรื่องส่งคนลงสมัครในเขตนี้ ไม่ให้เกียรติกัน ทั้งที่ตนเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กๆ ทำงานให้พรรคมามาก เป็น ส.ส.มานาน 27 ปี

นอกจากนี้ นายนิพิฏฐ์ถามว่าคนใหม่ที่นายนิพนธ์ พูดว่าพรรคจะส่งนั้นเป็นใคร ซึ่งได้มีคนในงานบอกนายนิพิฏฐ์ว่า เป็นบุตรชายของนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง ที่เป็นน้าชายของ น.ส.สุพัชรี ขณะที่นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนนึกว่า น.ส.สุพัชรีและนายนริศ ได้คุยกับนายนิพิฏฐ์เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายนิพิฏฐ์ พูดสวนทันทีว่า น.ส.สุพัชรีเคยบอกเองว่าลูกชายของนายก อบจ. จะไม่ลงสมัคร ส.ส. แต่ตอนนี้กลับจะให้เปิดตัวเขาลงสมัครเขตนี้ โดยไม่ถามตนก่อนเลย และคนๆ นี้ก็ไม่ใช่คนในเขต 2 อาจทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ตั้งคำถามได้ว่าประชาธิปัตย์ในเขตนี้ไม่มีคนดีแล้วหรือ จึงต้องไปเอาคนจากเขตอื่นมาลงสมัคร แต่ถ้าทุกคนในที่นี้อยากจะคิดและทำตามนั้น ก็ทำไปเลย ตนขอกลับก่อนดีกว่า แบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติกัน ตนไม่ใช่คนทรยศพรรค แต่เมื่อพรรคไม่เอาตนแล้ว ตนก็มีความชอบธรรมที่จะออกไปอยู่ที่อื่น

จากนั้น นายนิพิฏฐ์ได้เดินออกจากที่ประชุม โดยมี ส.ส.บางส่วนเดินตามไปขอให้นายนิพิฏฐ์อยู่ในงานต่อ ซึ่งนายนิพิฏฐ์แจ้งให้คนเหล่านั้นกลับไปร่วมประชุมต่อ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลอดเหตุการณ์การถกเถียงดังกล่าว นายนริศไม่ได้พูดชี้แจงใดๆ ส่วน น.ส.สุพัชรีไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ได้กลับเข้าในงานหลังจากนายนิพิฏฐ์เดินทางออกไปแล้ว

แหล่งข่าวระบุอีกว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นผู้ใหญ่ในพรรคได้รับทราบเรื่องและกำลังพยายามพูดคุย นอกจากนี้มี ส.ส.ภาคใต้จำนวนหนึ่งจับกลุ่มพูดคุยกันถึงทิศทางการทำงานการเมืองจากนี้ว่า ถ้าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขและนายนิพิฏฐ์ ตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่พรรคอื่น จะมี ส.ส.หลายคนพร้อมตามไปร่วมงานกับนายนิพิฏฐ์ด้วยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า ขณะเดียวกันกำลังดูแนวทางของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ด้วยว่าจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นอย่างไร หากจะมีการตั้งพรรคการเมืองก็อาจไปร่วมงานกับนายอภิสิทธิ์ด้วย.