เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 15 ต.ค. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ขณะออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบตามปกติได้รับแจ้งจากศูนย์ วิทยุ “แก่นนคร 191” สภ.เมืองขอนแก่น ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านในพื้นที่บ้านนนทัน เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงเข้าสกัดและควบคุมเพลิง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านอย่างโหมกระหน่ำ เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงเพื่อควบคุมเพลิง ขณะที่ จ.ส.ต.เมธาวุฒิ เพ็ชรศรี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย ด.ต.ธนเดช เดชศิริ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นสายตรวจเขตโนนทัน พร้อมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ ได้ตัดสินใจปีนกำแพงเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้าน ที่กำลังเกิดเหตุเพลิงไหม้
โดยพบว่าภายห้องน้ำของบ้าน และภายในบ้านมีคนติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำร่างนางทับทิม เคียมเทพ ซึ่งอยู่ภายในบ้านออกมาได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังคงนายเสกสรร เคียมเทพ ซึ่งติดอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงปีนกำแพงเข้าไปภายในห้องน้ำ ก่อนจะตัดสินใจเปิดช่องหลังคาสังกะสีออก แล้วดึงแขนนายรังสรรค์ขึ้นมา และนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น เนื่องจากได้สูดดมควันไฟไปหลายนาที
จากการตรวจสอบทราบว่า บ้านเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นบ้านเลขที่ 14/1 และบ้านเลขที่ 14/26 ชุมชนโนนทัน 3 เบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังต้นเพลิงนั้น ได้มีการจุดไฟเพื่อทำอาหาร ก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกลามอย่างรวดเร็ว และลุกลามไหม้บ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งมีของเก่าเก็บไว้จำนวนมาก
จ.ส.ต.เมธาวุฒิ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุแก่นนคร ได้รีบมาทันทีเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเตรียมจะฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ ทราบจากชาวบ้านว่า มีคนติดอยู่ภายในห้องน้ำบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ จากนั้นได้พาหน่วยกู้ภัย เข้าไปร่วมกันช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในห้องน้ำ โดยผู้หญิงสามารถพูดคุยได้รู้เรื่อง ส่วนผู้ชายหมดสติ แต่ก็สามารถนำตัวออกมาได้ด้วยความทุลักทุเล แต่ก็สามารถช่วยได้ทั้ง 2 คน
“ตอนที่มาถึงที่เกิดเหตุ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน เพราะต้องหาวิธีช่วยเหลือ ซึ่งตนเองก็เคยฝึกและเรียนรู้มาบ้าง แต่เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์จริง ก็ต้องใช้สติแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้สำเร็จ”
พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง ซึ่งเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงตามขั้นตอนต่อไป