เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 67 นายเรืองเดช ริกา กำนันตำบลเขาพระ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนชาวบ้าน ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมง สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการที่มีช้างป่าเป็นช้างพลายจำนวน 3 ตัว ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาหลวง ได้ลงมาในพื้นที่ทำการเกษตรและพื้นที่อยู่อาศัย เข้าทำลายผลอาสิน ทั้งสวนปาล์ม มะพร้าว ทุเรียน มังคุด ลางสาด เงาะ และยางพารา จนได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ 2 ตำบลได้แก่ ตำบลของพระหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 10 และหมู่ที่ 4 และตำบลพิปูน อีก 2 หมู่บ้าน รวมหลายร้อยครัวเรือน
นอกจากนี้ยังมีวัสดุอุปกรณ์ทางด้านการเกษตร อาทิ ปั๊มสูบน้ำ ท่อส่งน้ำ ก๊อกน้ำ ถังพลาสติกเก็บน้ำ ขนาดตั้งแต่ 500 ลิตร ถึง 2,000 ลิตร สปริงเกลอร์ รวมทั้งสระกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านขุดเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ถูกช้างป่าลงไปเล่นน้ำและทำลายจนได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าบ่อละกว่า 300,000 บาท ในพื้นที่ในขณะนี้ จะพบรอยเท้าช้างขนาดใหญ่ และมูลช้างที่ถ่ายเอาไว้กระจัดกระจายเต็มไปหมด
นายเรืองเดช ริกา กำนันตำบลเขาพระ เปิดเผยว่า ช้างป่าขนาดใหญ่จำนวน 3 เชือก เป็นช้างพลาย “ช้างสีดอ” มีงาสั้น ได้เข้ามาอาละวาดในพื้นที่ 2 ตำบลของอำเภอพิปูน ประกอบด้วย ตำบลเขาพระและตำบลพิปูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางเจ้าหน้าที่อุทยาน ฝ่ายปกครอง อส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อุทยาน เทศบาลตำบลเขาพระ ผู้ช่วยสารวัตรกำนัน และชาวบ้านจิตอาสา ได้ร่วมกันออกขับไล่ช้างป่าให้ออกไปจากพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะช้างป่าจะกลับขึ้นไปบนป่าเทือกเขาหลวงได้ไม่นาน ก็จะกลับลงมาในพื้นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรของชาวบ้านเหมือนเดิม และยังลุกคืบลงมามากขึ้นเรื่อยๆ ในพื้นที่ 2 ตำบลของอำเภอพิปูน ดังกล่าว ทำให้ผลอาสินของชาวบ้านและวัสดุอุปกรณ์ทางด้านการเกษตร ถังกักเก็บน้ำ ได้รับความเสียหายย่อยยับ รวมมูลค่าความเสียหายรวมกันหลายล้านบาท
“ผมอยากให้สมาคมสื่อฯ ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ในระดับกระทรวงหรือรัฐบาล สั่งการหรือหามาตรการในการขับไล่ผลักดันช้างทั้ง 3 ตัว ให้กลับเข้าไปอยู่ในพื้นที่ป่าเทือกเขาหลวง ไม่ลงมาอาละวาดรบกวนทำร้ายทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน เพราะในขณะนี้ สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านทั้งสองตำบลเกรงว่าไม่วันใดก็วันหนึ่ง ช้างป่าจะอาละวาดรุกลงมาจนถึงบ้านเรือนที่พักอาศัย ซึ่งอาจจะพังบ้านเรือนหรือทำร้ายผู้คนจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็เป็นได้” นายเรืองเดช กล่าว
กำนันตำบลเขาพระ อำภอพิปูน กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนในพื้นที่ 2 ตำบลดังกล่าว ต้องอาศัยอยู่อย่างหวาดผวา ไม่กล้าออกจากบ้าน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ไม่มีใครกล้าออกไปทำการเกษตรหรือกรีดยางพาราตามปกติ แม้แต่ในช่วงกลางวัน ช้างป่าได้ลงมาอาละวาดอย่างหนัก จนชาวบ้านต้องอพยพหลบหนีตายกันกระเจิดกระเจิงทุลักทุเล โดยในขณะนี้ ตนได้ตั้งศูนย์อำนวยการขับไล่ผลักดันช้างป่าเทือกเขาหลวงทั้ง 3 ตัว เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับความเสียหาย ได้มาลงชื่อพร้อมสรุปผลความเสียหาย ทั้งผลอาสิน วัสดุอุปกรณ์การเกษตร และอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายในแต่ละราย เพื่อรวบรวมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้กรมอุทยานฯ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ออกมารับผิดชอบในการกำหนดมาตรการการขับไล่ผลักดันช้างป่าทั้ง 3 ตัว ให้พ้นจากพื้นที่ทำมาหากินของประชาชนและจ่ายชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากการอาละวาดทำลายของช้างป่าทั้ง 3 ตัว ดังกล่าวต่อไป.