จากกรณีข่าวสะเทือนแวดวงธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ที่ทาง “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรและผู้ประกาศข่าวได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของธุรกิจ “บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม
ซึ่ง “บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ และเชิญชวนดาราตัวท็อปวงการบันเทิงอย่าง บอสกันต์ กันตถาวร, บอสมิน พีชญา, บอสแซม ยุรนันท์ และ บอย ปกรณ์ เป็นผู้บริหารในบริษัทและพรีเซ็นเตอร์ ก่อนที่จะมีประเด็นหลังมีผู้เสียหายออกมาอ้างว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนสูญเสียเงินจำนวนมาก โดยความคืบหน้าบอสพอลได้เข้าไปให้ปากคำกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และได้เดินทางไปออกรายการโหนกระแสเพื่อเคลียร์ดราม่าตามที่ได้เสนอข่าวอีกด้วย
โดยในรายการเข้มข่าวค่ำ ช่องพีพีทีวีได้สัมภาษณ์ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ช่วยวิเคราะห์ภาษากายของบรรดาบอสและพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้ว
บอสกันต์ ดร.ตฤณห์ มองว่าเป็นบุคคลที่เห็นได้ชัดเลย ซึ่งตอนเป็นพิธีกรเขาพูดเสียงดังฟังชัด มีความมั่นใจ น้ำเสียงหนักแน่น แต่ตอนแถลงข่าวกลับพูดเสียงเบา และถ้าหากสังเกตสายตาจะมองไปรอบ ๆ ขณะสัมภาษณ์โดยการมองไปที่รอบ ๆ แบบนี้คือเพื่อมองหาความเห็นใจ หรือมองหาคนที่จะเชื่อในคำพูดของตนเอง
ถ้าคนที่จะแถลงข่าวบอกข้อเท็จจริงจะไม่สนใจว่าใครมองเขาอยู่ นอกจากคนที่ต้องการโน้มน้าวให้คนเชื่อ ส่วนความเครียดเกิดขึ้นกับคุณกันต์อย่างเห็นได้ชัดมีการกัดฟัน กลืนน้ำลาย ขมวดคิ้วตลอดเวลา ซึ่งภาษากายจะบ่งบอกถึงความเครียด บอกถึงความกลัว อีกอย่างที่เห็นชัดเจนเลย ก็คือบางประโยคที่คุณกันต์พูดออกมา แม้แต่ตัวของคุณกันต์ก็ดูไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด จึงไม่น่าจะใช่ข้อเท็จจริง แต่ยังไงก็ตามคุณกันต์จะพูดความจริงหรือเปล่า ต้องไปเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายกัน โดยส่วนตัวมองว่าถ้าคุณกันต์มีความบริสุทธิ์ใจจริง ไม่จำเป็นต้องมีทนายความประกบก็ได้
บอสมิน ดร.ตฤณห์ วิเคราะห์ว่าเป็นคนที่ดูมีความมั่นใจมากที่สุด ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก คือการแต่งกายในวันแถลงข่าว ใช้เสื้อผ้าโทนสีอ่อนหรือใส่สีขาว ซึ่งการแต่งกายมีผลต่อผู้ฟังอย่างมาก คุณมินแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ด้วยการใส่สีขาว แต่ในด้านภาษากาย มีความมั่นใจกึ่งไม่พอใจที่ถูกกล่าวหา ซึ่งอารมณ์ตอนแถลงข่าว มีหลากหลายอารมณ์ที่สลับไปมามีทั้ง ความเครียด วิตกกังวล แต่ในความเครียดน่าจะน้อยที่สุดในบรรดา 5 คน ที่ออกมาแถลง คุณมินเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูดว่าเป็นความจริง ซึ่งก็อาจจะไม่รู้จริง ๆ แต่อย่างไรก็ตามต้องไปดูพยานหลักฐานอื่น ๆ ประกอบตามด้วย
บอย (พรีเซ็นเตอร์) ดร.ตฤณห์ เผยว่าเป็นบุคคลที่ตกใจมากที่สุดและมากกว่าทุกคน นอกจากนี้ก็ยังมีความเครียด และความสะเทือนใจที่ตนเองกระทำจนเกิดผลกระทบ แต่สิ่งที่เด่นชัดมากที่สุดสำหรับคุณบอยคือ สะเทือนใจ เครียด จะเห็นได้ชัดตลอดการสัมภาษณ์หรือการออกรายการทั้งตาแดง หลายคนอาจจะบอกว่าคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นนักแสดง อาจารย์มองว่ามีหลายส่วนที่การแสดงไม่สามารถออกมาให้เห็นได้ ซึ่งเป็นธรรมชาติของร่างกายมนุษย์
บอสแซม ดร.ตฤณห์ กล่าวว่า เป็นคนที่ใช้เครื่องมือสื่อสารมากที่สุดในบรรดาทั้ง 5 คน และเป็นคนที่มีข้อมูลน้อยที่สุด แต่สคริปต์และเนื้อหาที่จะสื่อสารออกมาก็จะคล้าย ๆ กัน เนื่องจากคงมีการตกลงหรือเตรียมกันไว้แล้วว่าต้องพูดแบบนี้ ดังนั้นภาษากายของคุณแซมไม่เห็นอะไรเด่นชัด นอกจากความประหลาดใจในสิ่งที่เขาได้ยิน
บอสพอล ดร.ตฤณห์ วิเคราะห์ว่าเป็นบุคคลที่มีความเครียดเห็นได้ชัด แต่เป็นความเครียดที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หมายความว่าสถานการณ์แบบนี้ มันควรที่จะมีความเครียดมากกว่านี้ อนุมานว่าบอสพอลน่าจะผ่านประสบการณ์ มีการเตรียมเรื่องรับมือมาแล้ว เพราะก่อนหน้านี้มีประวัติทำธุรกิจลักษณะนี้กว่า 10-20 ปี ก็อาจจะเป็นไปได้ที่รู้ทางหนีทีไล่มาก่อน ส่วนความเครียดวิเคราะห์ได้แบบผิวเผินได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากการตกแต่งศัลยกรรมบนใบหน้ามา มันเลยทำให้การอ่านภาษากายทำได้ยาก
แต่มันมีเสี้ยววินาทีหนึ่ง ที่มุมปากทั้งสองข้างขยับไม่เท่ากันตามที่ควรจะแสดงออก ซึ่งภาษากายเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกไม่พอใจอะไรบางอย่าง
ภาพรวมทั้งหมด 5 คน
ดร.ตฤณห์ เผยว่าทุกคนที่ออกมาแถลงข่าว คือไม่ได้ออกมาทันทีหลังจากที่มีกระแสข่าว ซึ่งการออกมาตอบรับทันทีหลังจากมีกระแสข่าว จะเป็นธรรมชาติของคนที่รู้สึกผิดจริงมากกว่า แต่ละคนก็ใช้เวลายาวนาน บางคนทอดเวลานานกว่าสัปดาห์ และกว่าจะออกมาพูดอย่างบอสพอลมาหลังสุด และการมาของแต่ละคนก็พูดตามสคริปต์ที่ได้มีการเตรียมหรือตกลงไว้แล้ว ซึ่งคำพูดจริง ๆ ที่ออกมาจากใจ จะต้องไปตามภาษากายนั้นคือความจริงทุกอย่าง ที่จะต้องสอดคล้องกัน…