สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า จรวด “เคเอสแอลวี-ทู” หรือ “นูรี” ซึ่งมีความหมายว่า “โลก” ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวด ภายในศูนย์อวกาศนาโร ตั้งอยู่ที่เขตโกฮึง ริมชายฝั่งของของจังหวัดช็อลลาใต้ ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (15.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งช้ากว่ากำหนดการเดิมประมาณ 1 ชั่วโมง

จรวดนูริออกเดินทางจากฐานปล่อยจรวด ภายในศูนย์อวกาศนาโร ทางตอนใต้ของเกาหลีใต้


ทั้งนี้ จรวดนูรี ซึ่งเกาหลีใต้พัฒนาและก่อสร้างเองทุกขั้นตอน มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมจำลอง ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน ให้ไปโคจรที่ระดับความสูงประมาณ 600-800 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก


แม้วัตถุดังกล่าวยังไม่ใช่ “ของจริง” แต่ความสำเร็จจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ทุกภาคส่วนในเกาหลีใต้ ในการร่วมมีบทบาทในสมรภูมิ “สงครามอวกาศ” ที่หลายประเทศในทวีปเอเชียกำลังมีพัฒนาการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน

ขณะที่การปล่อยดาวเทียมจำลองของจรวดนูรี จะทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ 7 ของโลก ซึ่งสามารถส่งจรวดปล่อยดาวเทียมที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน ต่อจาก รัสเซีย สหรัฐ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นอกจากนี้ เกาหลีใต้มีแผนการส่งยานสำรวจที่สร้างขึ้นเอง เดินทางไปสำรวจดวงจันทร์ ภายในปี 2573 ด้วย

KBS News


อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดรอบใหม่บนคาบสมุทรเกาหลี เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธแบบยิงจากเรือดำน้ำ (เอสแอลบีเอ็ม) “รุ่นล่าสุด” เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลเปียงยางตอกกลับรัฐบาลวอชิงตัน “สองมาตรฐาน” และตั้งคำถามเกี่ยวกับ “เจตนาแท้จริง” ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งยังคงเดินหน้าเรียกร้อง “การเจรจาอย่างไม่มีเงื่อนไข” กับเกาหลีเหนือ.

เครดิตภาพ : AP