เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 16 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ แห่งหนึ่ง ภายใน ซอยเทวา 1 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ
ที่บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ ดังกล่าว พบ นายทิตาวีร์ ภิรมมาตร อายุ 22 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้ มีบาดแผลถูกของมีคมปลายแหลมแทงเข้าบริเวณหน้าท้อง 1 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก่อนเร่งรัดนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยในจุดเกิดเหตุ พบ คราบเลือดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ โดยมีแฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นจากการสอบถามแฟนสาว ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ นั้นเป็นแฟนเก่าของตนเอง ซึ่งเลิกรากันไปได้สักพักแล้ว ได้มาดักซุ่มอยู่ที่บริเวณหน้าตึก จนตนเองและผู้บาดเจ็บนั้นลงมาจากตึก ผู้ก่อเหตุเข้าใช้อาวุธแทงผู้บาดเจ็บจนต้องวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง โดยแฟนเก่าชื่อ นายมาร์ค หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
แฟนสาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า คนก่อเหตุขับขี่รถจักรยานมา พอเห็นพวกตนเขาก็วิ่งเข้าใส่เลย มีตะโดนด่าไอ้สัสก่อนจะแทง ไม่ได้มีการโทรหรือแชทท้าทายอะไรกัน ตนเลิกกับผู้ก่อเหตุนานแล้ว
ด้าน นางเอ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นมีมอเตอร์ไซด์ขี่มา 2 คน สักพักก่อนจะได้ยินเสียงดังโครมแล้วมีคนตะโกนบอกให้ช่วย ตนจึงเข้าไปช่วยเพราะคิดว่าเขาทะเลาะกันธรรมดา ก่อนจะมีการพูดกับคนก่อเหตุว่าใจเย็นๆ หลังจากนั้นคนที่ถูกแทงก็เดินมา ขอร้องให้ช่วยบอกว่าตนถูกแทงมา ตนทราบว่าคนที่โดนแทงเป็นแฟนใหม่ ส่วนคนที่แทงเป็นแฟนเก่า คนเจ็บพักอยู่แถวนี้
ด้าน นางรัตน์ อายุ 48 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นคนเจ็บกับแฟนเดินลงมา แล้วก็เห็นตัวคนก่อเหตุอยู่ข้างล่างเหมือนซุ่มดูอยู่ก่อนแล้ว พอ 2 คนนั้นเดินลงมาก็ก่อเหตุเลย เพราะตนได้ยินเสียงรถล้ม เพราะตัวคนโดนแทงล้มทับรถ รถก็เลยล้ม ตอนนั้นตนมองอยู่ ตัวคนเจ็บเห็นก็เลยวิ่งมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าโดนแทง สักพักเมียเขาก็เดินมาแล้วบอกว่าแจ้งตำรวจให้หน่อย ตนก็เลยโทรแจ้งตำรวจ เขาโดนแทงแผลเดียว ตัวคนก่อเหตุตนก็เคยเห็นหน้าเพราะเคยอยู่ที่นี่ เขาเลิกกันกับผู้หญิงไปนานแล้ว แล้วก็มีลูกด้วยกัน 1 คน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานรายละเอียดในจุดเกิดเหตุ พร้อมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก โดยจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว