เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี  พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยถึงกรณีที่อดีตพระยันตระ หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ ในวัย 70 ปี ได้เดินทางมาประเทศไทย มีพระและประชาชนเข้าไปกราบไหว้เป็นจำนวนมากว่า ให้ทุกคนคิดดูว่าเขาเป็นใครถึงให้พระไปกราบไหว้ แต่เมืองไทยแยกแยะลำบาก ซึ่งรายนี้ก็ไม่ใช่รายแรก การแยกแยะเป็นเรื่องสำคัญซึ่งเขาไม่ได้เข้าพรรษา ศาสนาไม่นับถือ เราจะไปกราบไหว้อะไรเขา ต้องมีการเคารพประเพณีการกราบไหว้บูชาผู้ควรบูชา อย่าส่งเสริม พระที่ทำไม่ดียังบูชา พระท่านยังบอกให้ตำหนิคนชั่ว ยกย่องคนดี แต่พระที่ไปกราบไหว้เขาดันลดตัวลงไป เป็นเรื่องที่มองแล้วอนาถใจ

“ที่บอกว่าตนเป็นนักบวชอยากถามว่าศาสนาไหน ลัทธิไหน ถ้าไม่ถือพรรษาจะบอกเป็นพระสายไหน ต้องระบุให้ชัดเจน ยันตระนี่ชอบเป็นหลายอย่าง เป็นฤษีบ้าง เป็น พราหมณ์บ้าง หรือบอกว่ามาจากเนปาล ครั้งนี้ที่เขากลับมาอาจจะมาเรียกเรตติ้ง เพราะแต่ก่อนนี้ผู้หญิงเดินตามเขากันเยอะเพราะเขาหล่อ และเคยมาที่วัด 2 ครั้ง มีคนทำบุญเยอะมาก เป็นความจูงใจศรัทธา เพราะที่วัดอาตมาไม่เคยมีใครมาใส่บาตรเกิน 1-2 หมื่นคน ตอนยันตระมามีประมาณ 2 หมื่น อาตมาเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ เพราะทั้งหมดหลุดไปจากที่วัด ซึ่งตอนที่เขามาที่วัด 10 โมงแล้วยังไม่ตื่นมาบิณฑบาต บอกว่านั่งสมาธิ แต่มีลูกศิษย์วัดคนนึงบอกว่ากลางคืนไปเที่ยวมา เลยเช้าตื่นไม่ไหว อาตมาจึงตัดปัญหาว่าคราวหลังไม่ให้มาแล้ว มีโยมเข้ามาด่าว่าอาตมาอคติ อาตมาจะอคติได้อย่างไร เพราะเขามาที่วัดตั้ง 2 ครั้ง” พระพยอม กล่าว