จากกรณีวันที่ 28 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 70/2567 กรณีมีผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ในคดีความผิดทางอาญา พร้อมด้วยเอกสารจำนวน 92,289 แผ่น มาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ และหากจะอยู่ในอำนาจอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะรับไว้ดำเนินการได้หรือไม่ จะต้องมีการเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการรับคดีพิเศษตามระเบียบฯ จึงมีการนัดหมายประชุมในวันที่ 29 ต.ค. เวลา 09.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ผอ.กองกฎหมาย ผู้แทนของกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และผู้สืบสวนสอบสวนของสำนักงานแห่งชาติ ร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 29 ต.ค. 67 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า สำหรับการส่งมอบหลักฐานสำนวนในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) มายังดีเอสไอเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) นั้น ตอนนี้รับเรื่องมาเพียงแค่บางส่วน เนื่องจากตอนนี้ยังมีสำนวนคดีอยู่ทั่วประเทศ จึงต้องรอทางตำรวจส่งมาที่ดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม สำนวนที่อยู่ในมือก็ได้ให้คณะทำงานตรวจสอบเบื้องต้นไปแล้วเพื่อนำเข้าที่ประชุมในวันนี้ โดยในวันนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เชิญตำรวจเข้ามาชี้แจง พิจารณาคดีประกอบข้อเท็จจริงสำนวนคดี

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อไปว่า ส่วนการรับไม้ต่อทำคดีจากทางตำรวจ บก.ปคบ. ในขั้นตอนแรกจะต้องดูกระบวนการว่าเรื่องนี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นคดีพิเศษได้โดยอธิบดีดีเอสไอรับเรื่องไว้เอง หรือผ่านบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ ก็จะต้องมีการตรวจรับรองสำนวนให้เรียบร้อย และมีการประชุมร่วมกับทางตำรวจว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อวางแผนในการทำต่อไป เพราะอำนาจในการสอบสวนของดีเอสไอและตำรวจเป็นอำนาจเดียวกัน เพียงแต่มีการถ่ายอำนาจผ่านกันมาและเดินหน้าสอบต่อ รวมถึงการวางรูปคดี และการเร่งดำเนินการเพราะปัจจุบันมีผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมอยู่

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารที่ บก.ปคบ. ส่งมาเบื้องต้นกว่า 90,000 หน้ากับดีเอสไอนั้น เรารับไปตรวจสอบเบื้องต้น เพราะสุดท้ายต้องผ่านขั้นตอนแรกก่อน คือการพิจารณาว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับอำนาจการสอบสวน และที่เชิญตำรวจมาประชุมด้วยเนื่องจากสำนวนที่ส่งมายังมาไม่ครบทั้งหมด จึงต้องคุยในรายละเอียดว่าทางตำรวจได้ทำอะไรไปแล้วและข้อเท็จจริงที่ได้เป็นอย่างไรเบื้องต้น แต่ส่วนการตัดสินใจว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณา

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ส่วนการเปลี่ยนมือจากทางตำรวจ บก.ปคบ. มาเป็นดีเอสไอ ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเราทำงานด้วยกัน แต่อย่างที่ย้ำเสมอเรื่องเปลี่ยนเจ้าภาพ เพราะกฎหมายดีเอสไอมีช่องทางบูรณาการได้มากกว่า แต่การทำงานทำด้วยกันคู่ขนานกัน และขณะนี้คดีดิไอคอนฯ ที่เกี่ยวกับคดีการฟอกเงินทางอาญา ทางดีเอสไอรับไว้เป็นคดีพิเศษแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 08.30 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. (ผู้บังคับการปราบปราม) ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุมกับดีเอสไออีกด้วย.