เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 67 ที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 จ.ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านกว่า 100 คน รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา ในเขต อ.พล และอำเภอข้างเคียง มารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ณัชญานุช สุดชาดี ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 พร้อมทั้งมอบช่อดอกไม้ และสวมกอดเพื่อให้กำลังใจ ขอให้เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง ภายหลังจากถูกชาวบ้านและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนหนึ่งรวมตัวขับไล่และเตรียมเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ
รวมตัวเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ระดับสูง สปพ.ขอนแก่น ออกนอกพื้นที่
น.ส.ณัชญานุช กล่าวว่า พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ในทุกข้อร้องเรียน ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มบุคคลที่หวังผลให้ตนถูกโยกย้ายออกนอกพื้นที่ ในช่วงที่มีการเสนอแต่งตั้งผู้แทนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ใน อกคศ.เขตพื้นที่ ทั้งที่การปฏิบัติหน้าที่ ผอ. ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม และยึดมั่นธรรมาภิบาล ตามกฎระเบียบของกระทรวงฯ อย่างเคร่งครัด
“ข้อกล่าวหา 8 ข้อ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุนั้น เริ่มจากการรับบริจาคเงินกฐินพระราชทาน ซึ่ง สพป.ขอนแก่น เขต 3 ไม่เคยได้รับพระราชทานเงินกฐินพระราชทานเลย การกล่าวอ้างถึงน่าจะเป็นการกล่าวถึงเงินบริจาคที่จะร่วมสมทบทำบุญกฐินพระราชทานที่รับบริจาคจากคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาผ่านบัญชี กองทุน ทำบุญ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ไม่ใช่บัญชีกฐินพระราชทาน เป็นบัญชีเดิมที่มีอยู่แล้ว และมีคณะกรรมการเบิกจ่ายตามระเบียบเดิมของบัญชีทำบุญ ก่อนตนมาดำรงตำแหน่ง เรื่องงบอินเทอร์เน็ตโรงเรียนมีการตั้งเรื่องเบิกตามขั้นตอน ส่วนการเบิกจ่ายล่าช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกระบวนการ ขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่พัสดุ และเจ้าหน้าที่การเงิน ปัจจุบันมีการชำระเงินทั้งหมดแล้ว อาจจะล่าช้าเฉพาะช่วงรอยต่อในปีงบประมาณที่ผ่านมา การคัดเลือกลูกจ้างชั่วคราวมีการตั้งกรรมการในการรับสมัคร และดำเนินการตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างชัดเจน โดยที่ตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการใดๆ” ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 กล่าว
น.ส.ณัชญานุช กล่าวต่ออีกว่า การบริหารงานในด้านอื่นๆ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เกียรติผู้คนเสมอมา มีการครองตน ครองงาน เป็นปกติทั่วไปซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและทัศนคติส่วนบุคคล ขณะที่การจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล ค่าใช้จ่ายต่างๆ มีการชี้แจงออกมาทุกรายการ และมีการนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนการไม่นำเงินเข้าบัญชีตั้งแต่ต้นด้วยสถานะบัญชีเป็นชื่อบุคคลนำฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นและอำนาจการถือจ่ายเบิกถอนเงินยังเป็นบุคคลภายนอก ข้าพเจ้ายังไม่มีอำนาจในการถือจ่ายเบิกถอนในขณะนั้นจนถึงปัจจุบัน จึงมีการนำเงินดังกล่าวมอบให้กับศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาทัง 17 ศูนย์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้ศูนย์เป็นฐาน ศูนย์ฯ ละ 5,000 บาทเป็นเงิน 85,000 บาท และมีการสมทบสร้างบ้านให้กับนักเรียน จำนวน 20,000 บาท ซึ่งการดำเนินงานนั้นโปร่งใสและตรวจสอบได้
“สำหรับเรื่องบประมาณจากหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้การสนับสนุน ให้ความร่วมมือและประสานส่งเสริมให้ได้รับงบประมาณที่มาตามข้อบัญญัติขอสภา อบจ. ตามปกติ ซึ่งได้ชี้แจงกับคณะผู้บริหารสถานศึกษาให้รับทราบแล้ว เพื่อเป็นการสนับสนุนในการสร้างโอกาสให้กับผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษาเพื่อพัฒนาสถานศึกษา และลูกๆ นักเรียนในพื้นที่ สร้างผู้เรียนดี มีความสุข ขณะที่การออกคำสั่งต่างๆ ของสำนักงานเขตฯ มีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ระเบียบกฎหมาย โดยไม่มีการแอบอ้างมติ อกคศ. ในการสั่งการแต่อย่างใด” น.ส.ณัชญานุช กล่าว.
