เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ประชุมพิจารณารับคดี The iCon Group เป็นคดีพิเศษกว่า 2 ชั่วโมง ระบุว่า  ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาและเครือข่าย ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในประเด็นต่าง ๆ ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายได้มีการแจ้งความเอาผิดในหลายข้อหา ทั้งความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ และความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา

แต่ในระยะเวลาเพียง 5 วันหลังสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเริ่มมีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและมีการเตรียมการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีไปให้ศาลอาญาพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาทุกคน ในความผิดข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพ์ และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีหลักฐานเพียงพอจนศาลออกหมายจับให้ ซึ่งหลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกคน ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาและปรากฏหลักฐานข้อมูลเส้นทางการเงิน งบการเงิน รูปแบบการตลาด การเสียภาษี พบว่ามีรูปแบบพฤติการณ์เสนอผลตอบแทน สร้างภาพลักษณ์ภูมิฐาน  ชักจูงให้มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ของแชร์ลูกโซ่ และเมื่อตรวจสอบจำนวนของผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจึงชัดเจนว่าคดีดังกล่าวเข้าตามบัญชีแนบท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ที่ต้องมีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 300 คนและมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท จึงต้องส่งคดีดังกล่าวให้ดีเอสไอพิจารณา ไม่ได้เป็นการโยนคดี แต่เป็นไปตามที่กฎหมายระบุ จึงได้เร่งรวบรวมพฤติการณ์และพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้ดีเอสไอนำไปดำเนินคดีต่อ

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มมีการทำคดีมาจนถึงปัจจุบัน การรับแจ้งความในสำนวนของผู้เสียหายยอมรับว่ายังไม่เรียบร้อยและยังไม่ทราบว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใดเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความเข้ามาเป็นจำนวนกว่า 8,000 คน ทั้งที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและจากต่างจังหวัด ซึ่งสำนวนที่แจ้งความที่ตำรวจสอบสวนกลางก็ได้ทำการทยอยส่งสำนวนให้ดีเอสไอจนเกือบครบหมดแล้ว แต่ต้องรอให้สถานีตำรวจแต่ละพื้นที่ส่งสำนวนเข้ามาที่ส่วนกลางเพื่อรวบรวมส่งให้ดีเอสไอต่อไป สำหรับการทำสำนวนคดีและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดกลุ่มผู้ต้องหา ยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจทำสำนวนคดีและมีพยานหลักฐานเกินกว่า 70% แล้ว หากดีเอสไอต้องการข้อมูลหรือพยานหลักฐานและความช่วยเหลือใด ๆ ก็พร้อมดำเนินการสนับสนุน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้ทยอยนำส่งสำนวนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เพิ่มเติมแก่ดีเอสไออีก 17 ลัง โดยลังสำนวนทั้งหมดจะถูกนำไปไว้รวมกันกับ 20 ลังสำนวนเมื่อวานนี้ ที่ ห้องกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น 8 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ตรวจสอบทุกแฟ้มเอกสาร ทั้งสำนวนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย และคำให้การของผู้ต้องหา