การประกวด “มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2021” ซึ่งรอบชิงชนะเลิศ จะตัดสินผลกันในค่ำวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค.นี้ ที่สวนนงนุช เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยหนึ่งในสาวงามที่มีความโดดเด่นไม่แพ้สาวงามคนอื่นๆ ก็คือ “น้องนุ่น” จิตรลดา เลขาวิจิตร์ สาวงามหมายเลข MUT12 ซึ่งกว่าที่เธอจะก้าวมาถึงวันนี้ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาอย่างมากมาย โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในช่วงเรียนต่างประเทศ

“น้องนุ่น” เผยว่า หลังจากที่เรียนจบในระดับปริญญาตรี ด้านนิเทศศาสตร์ มีความคิดว่า เมื่อเรามีความรู้ด้านการสื่อสารแล้วก็อยากจะเติมเต็มความรู้ด้านบริหารธุรกิจ เพราะโลกยุคนี้เป็นโลกแห่งธุรกิจ จึงได้วางแผนการศึกษาต่อให้ตัวเอง ตั้งเป้าว่าอยากศึกษาในต่างประเทศ เพราะจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิตของเรา พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วยตัวของเราเอง

“หนูไปศึกษาด้านภาษาอังกฤษก่อน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประมาณ 1 ปี ก่อนเรียนต่อระดับปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ที่ ม.โคเวนทรี ระหว่างที่เรียนก็ต้องทำงานไปด้วยเพราะไม่อยากรบกวนค่าใช้จ่ายที่บ้าน แค่ที่บ้านให้โอกาสไปเรียนต่างประเทศก็ดีเกินแล้วและหนูก็อยากเรียนรู้การต่อสู้ชีวิตด้วยตัวเองด้วย”

จิตรลดา เล่าต่อว่า งานแรกที่ได้ประเดิมคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของทีมเชลซี ยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รู้สึกภูมิใจมากๆ ที่ได้ทำงานที่นี่ งานด้านการตลาดเป็นงานที่ใช้ข้อมูลมาเพื่อการวิเคราะห์ วางแผนและตัดสินใจ โดยมีการรวบรวมและค้นคว้าหาข้อมูล โดยที่อังกฤษ ค่าครองชีพค่อนข้างสูง จึงต้องมีการวางแผนระบบการใช้จ่ายเงิน โดยจะแบ่งเงินที่ได้มาเป็น 50:30:20 ซึ่ง 50 เป็นเงินที่ใช้จ่ายเป็นประจำในแต่ละเดือนส่วนตัว เป็นเงินใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตจริงๆ ส่วน 30 เป็นเงินที่ใช้เพื่อความต้องการ เช่น ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเสื้อผ้า สิ่งของที่เราอยากได้ สุดท้ายคือ 20 เป็นเงินออม เอาไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน รวมถึงอาจนำเก็บไว้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ในอนาคต

ส่วนเส้นทางสู่เวทีประกวดนางงามนั้น “น้องนุ่น” บอกว่า เคยร่วมประกวดนางนพมาศที่วัดพุทธปทีป ลอนดอน เป็นครั้งแรก แล้วก็ได้อันดับ 1 ตอนนั้นคิดว่าขอแค่ได้ร่วมประกวด ได้ร่วมทำกิจกรรมอนุรักษ์ประเพณีไทย ส่วนช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดครั้งแรกๆ นุ่นได้ทำข้าวกล่องแกงเขียวหวานไก่วันละ 50 กล่อง แจกจ่ายให้กับผู้ที่ไร้บ้านในลอนดอนด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่น่าสงสาร นุ่นภูมิใจมากที่ได้รู้จักการเป็นผู้ให้ เป็นการให้ที่เราสบายใจ เป็นการให้ด้วยความปรารถนาดี ให้ในสิ่งที่ดีงาม เรียกว่าภูมิใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับนั่นเอง