ถ้าผลออกมาว่าต้องการ ก็แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ว่าด้วยวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นเมื่อแก้เสร็จแล้ว ก็ทำครั้งที่ 2 คือ ผลการแก้ที่ผ่านวาระสามของสภาร่วมแล้ว ประชาชนเห็นชอบหรือไม่ และถ้าเห็นชอบ ก็มีกระบวนการ สสร. มายกร่าง ก่อนจะทำประชามติครั้งสุดท้ายคือ ประชาชนเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับ สสร.หรือไม่

กลายเป็นว่า อาจตีกับพรรคร่วมรัฐบาลอีก เพราะ สส.มุ่ง อัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.) ยืนยันจะทำ 3 ครั้ง ตามที่ประชุมสภาเคยมีมติมาแล้วว่า นี่คือการทำตามศาลรัฐธรรมนูญตีความ ..ก็เป็นไปได้ว่า กฎหมายประชามติก็ต้องดอง แล้วจะมาตีกับพรรคร่วมอีกเรื่องประชามติกี่ครั้ง

ขอให้วิปรัฐบาลคุยกันให้เรียบร้อยจะเอาอย่างไร พูดกันให้ชัดๆ เลยว่า“รัฐบาลนี้แก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน” เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นงานเพื่อประโยชน์การใช้ชีวิตของประชาชนเถอะ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญนี่ชักจะรู้สึกที่อยากร่าง เป็นแค่ความงอแงของฝ่ายการเมือง ไม่ค่อยสื่อสารให้เห็นความสำคัญถึงการที่ต้องไม่ให้องค์กรอิสระเป็นซูเปอร์องค์กรเท่าไร

ไม่สื่อสารปัญหาแท้จริงให้แข็งแรง คนก็จะมองว่า แก้เพื่อระบบเลือกตั้ง แล้วจะไม่อยากมาทำประชามติ.