เมื่อเวลา 23.36 น. วันที่ 6 พ.ย. 67 MR.MAYUR อายุ 34 ปี สัญชาติอินเดีย เดินทางเจ้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อัครพงษ์ แสนปุตะวงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังมั่นใจว่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มชาวต่างประเทศ สัญชาติปากีสถาน 2 คน ที่เข้ามาเสนอขายสินค้าสมุนไพรผสมน้ำผึ้ง โดยอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงและราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป ทำให้ตนเองสูญเสียทรัพย์สินไปถึง 20,000 บาท เหตุเกิดที่ร้าน Durni Natural Herbal ริมถนนพัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
MR.MAYUR หวังจะช่วยเตือนภัยกับนักท่องเที่ยวรายอื่น มิให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ พร้อมให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนเองเดินเล่นอยู่ริมถนนพัทยาสายสอง เมื่อคนเชียร์แขก ชาวปากีสถานสองคนสังเกตเห็นว่ามือทั้งสองข้างของตนเองนั้นมีปาน ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เกิด ก็เดินเข้าทัก แล้วแนะนำว่ารู้จักร้านขายสินค้าเป็นสมุนไพรวิเศษ ใช้แล้วหายขาดอย่างแน่นอน เพียงสองสัปดาห์เท่านั้น เอาหัวเป็นประกันได้เลย
โดยได้พาผู้เสียหายไปที่ร้านเกิดเหตุ พร้อมแจ้งกับทางร้านว่า ต้องการสมุนไพรตัวดังกล่าว สนนราคา 900 บาทต่อ 1 กรัม และน้ำผึ้งหนึ่งในส่วนผสมหลักขวดละ 1,000 บาท ตนเองหลงเชื่อคำอวดอ้างจึงตกหลุมพราง ตอนแรกตนเองปฏิเสธว่าไม่มีเงิน แต่ทางร้านแจ้งว่าผสมแล้วไม่สามารถคืนได้ ต้องรับสินค้า แล้วเลือกจ่ายวิธีใดก็ได้ ทำให้ตนเองต้องจำใจซื้อ เหมือนโดนมัดมือชก ซื้อสมุนไพร 2 ขวด ในราคาขวดละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 20,000 บาท
กระทั่งกลับมานั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้มีชาวต่างประเทศสังเกตเห็นถุงแพ็กเกจ ที่ทางร้านใส่ยาวิเศษมาให้ ก็ได้แจ้งบอกตนเองว่าถูกหลอกแล้ว ที่พัทยามีนักท่องเที่ยวถูกหลอกในลักษณะนี้ จากฝีมือของกลุ่มแขกปากีสถาน กับขบวนการกับเจ้าของร้านคนไทย รวมหัวกันในการหลอกขายสินค้าอวดอ้างสรรพคุณและมีราคาเกินจริง มีผู้เสียหายจำนวนมาก ตนเองจึงมั่นใจว่าถูกหลอกแล้ว จึงรีบเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
เบื้องต้น ร.ต.อ.อัครพงษ์ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ไปตรวจสอบร้านดังกล่าวเพื่อหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยมีผู้เสียหายหลายราย บางรายได้แจ้งความ ส่วนบางรายได้กลับประเทศไปแล้ว จึงจำใจยอมรับในการตกเป็นเหยื่อ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ออกกวาดล้างจับกุมไปแล้วหลายครั้ง แต่ขบวนการหลอกขายสินค้า เป็นสมุนไพรที่ไม่ได้รับอนุญาต อวดอ้างสรรพคุณและมีราคาเกินความเป็นจริง ให้กับนักท่องเที่ยว กลับไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา ไม่มีความเข็ดหลาบ ยังคงใช้วิธีดังกล่าวในการทำมาหากิน.