เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 7 พ.ย. 67 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อเท็จจริงด้านกระบวนการยุติธรรมที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่ ว่า หลังจากออกจดหมายเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมการพิจารณา มีหลายคนที่ไม่มาร่วมประชุมด้วยแน่นอน อย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ก็จะไม่มาร่วมการประชุมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะมาหรือไม่คงไม่สามารถหยุดให้ กมธ.แสวงหาความจริงได้

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้กระทบกับความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมของไทย มีฝ่ายต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องและไม่สามารถสืบหาความจริงได้ ทาง กมธ.มีความชอบธรรมในการแสวงหาความจริงต่อไป ส่วนกรอบการพิจารณาในเรื่องนี้ ไม่ได้วางกรอบไว้อย่างชัดเจน อยู่ที่ข้อมูลที่ได้รับมา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 129 กมธ.มีความชอบธรรมและมีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง การพิจารณาเรื่องเดิม 7 ครั้งก็เคยทำมาแล้ว อยู่ที่ข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของ กมธ. ถ้าทุกฝ่ายมาให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับตนเอง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอยากให้เข้ามาชี้แจงรวมถึงตอบคำถามของคณะ กมธ. เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเอง จากคำครหาหรือแม้แต่ในทางกฎหมายด้วย
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้การพิจารณาวางไว้ 2 ประเด็นหลัก อย่างประเด็นการเจ็บป่วยของนายทักษิณว่าป่วยจริงหรือไม่ ถ้าป่วยจริงก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าสิ่งไหนเข้าข่ายการไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 ได้บ้าง ส่วนประเด็นต่อมา การไปพบปะกับผู้คนต่างๆ เพราะการอยู่ชั้น 14 หมายถึงการอยู่เพื่อควบคุมตัวใช่หรือไม่ เสมือนอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ แต่ที่มีการพบปะเหมือนอยู่บ้าน คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อย่างกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบนายทักษิณที่ชั้น 14 ก็เห็นว่ายังไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลย กมธ.ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงนี้ออกมา และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊ก ก็ตกลงที่จะมาร่วมให้ข้อมูลด้วย จะได้ถามข้อมูลด้วยเช่นกัน เพราะในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่หลากหลายอย่าง

เมื่อถามว่ากรมราชทัณฑ์จะยืนยันว่าการพักรักษาตัวของนายทักษิณ จะไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว นายรังสิมันต์ ยิ้มและกล่าวว่า ถ้าสมมุติว่าจะโต้ว่าไม่จริง ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดไม่เป็นความจริงหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความสามารถพิเศษที่จะเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณได้ ดังนั้นใครโกหกหรือใครพูดเป็นความจริงหรือไม่ จะได้มาค้นหาข้อเท็จจริง กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญกับประเทศชาติมากเป็นกระดูกสันหลัง ขณะนี้ยังไม่ได้เห็นข้อมูลอะไรมาก มีการลิสต์คำถามมาได้ไม่เกิน 10-20 ข้อ หากได้ข้อมูลอะไรการแสวงหาเพิ่มเติมว่าต้องเรียกเอกสารอะไรคงไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่ ป.ป.ช. ที่ขอเอกสารไปยังเจออุปสรรค น่าคิดเหมือนกันว่าการทำหน้าที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพยานหลักฐานน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนกฎหมาย PDPA ที่ตำรวจอ้างเพื่อไม่ต้องให้ข้อมูล ซึ่ง กมธ.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ก็สามารถเข้าถึงเอกสารหลักฐานต่างๆ ได้อยู่แล้วหากไปดูเนื้อในของกฎหมายของ PDPA ไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อยกเว้นเลย ดังนั้นจะมาอ้างเรื่องนี้ไม่ได้ รวมไปถึงการไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือรัฐมนตรีก็อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตามในส่วนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แจ้งว่าจะมาชี้แจง แต่เมื่อถึงเวลาประชุม ยังไม่เดินทางมาและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนผู้ที่แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แต่จะส่งเอกสารประกอบการพิจารณาภายหลัง.