สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เขาได้มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศของตุรกีประกาศให้เอกอัครราชทูตของ 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ แคนาดา เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และนิวซีแลนด์ มีสถานะเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” เพื่อให้เอกอัครราชทูตเหล่านี้ “รู้จักและจดจำตุรกี” ว่า “เมื่อใดก็ตามที่ไม่รู้หรือไม่เข้าใจตุรกีอีกต่อไป เมื่อนั้นต้องออกไปจากตุรกี”
Instructions were given to declare envoys from the US, Germany, Denmark, Finland, France, Netherlands, Sweden, Canada, Norway, and New Zealand as persona non grata, says Turkey's president https://t.co/5ZXiXR4uMM pic.twitter.com/82cxX9rqpM
— ANADOLU AGENCY (@anadoluagency) October 23, 2021
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศในกรุงอังการาเชิญเอกอัครราชทูตของทั้ง 10 ประเทศ เข้าพบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังมีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องรัฐบาลอังการาปล่อยตัวนายออสมัน คาวาลา นักธุรกิจและนักการกุศล วัย 64 ปี ซึ่งอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ปี 2560 จากความผิดในข้อหาเกี่ยวกับ เหตุการณ์พยายามรัฐประหาร เมื่อปี 2559 แม้ศาลยกฟ้องจากข้อหาร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2556 แล้วก็ตาม
ด้านศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ( อีซีเอชอาร์ ) เคยออกมาเรียกร้องเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ให้รัฐบาลตุรกีปล่อยตัวคาวาลา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตของทั้ง 10 ประเทศที่ผู้นำตุรกีกล่าวถึง ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนีให้ข้อมูลว่า ทั้ง 10 ประเทศกำลังปรึกษาหารือกันเป็นการภายใน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES