นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการศัตรูมะพร้าว (หนอนหัวดำ) พร้อมด้วย นายปรีชัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายธัชธาวินท์ สะรุโณ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเกษตร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รวมทั้ง นายประถม มุสิกรักษ์ เกษตรจังหวัดสงขลา นายไพศอล หะยีสาและ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา นางธนสิดา ช้างนรินทร์ เกษตรอำเภอกระแสสินธุ์ ผู้แทนสำนักงานวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 8 เกษตรกร และเกษตรในพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอกระแสสินธุ์ ต.กระแสสินธุ์ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา

นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดการระบาดของหนอนหัวดำมากัดกินใบมะพร้าวในสวนมะพร้าวเขตคาบสมุทรสทิงพระ และเขตอื่นๆ ในพื้นที่ จ.สงขลา ทำให้พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และต้นมะพร้าวเสียหายจำนวนมาก จึงลงพื้นที่เพื่อหารือแนวทาง และวิธีการที่จะยับยั้งหนอนหัวดำร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการ กรมส่งเสริมการเกษตร พี่น้องเกษตรกร อาสาเกษตร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รวมถึงเกษตรอำเภอกระแสสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันจากข้อมูลพบว่า จ.สงขลา มีการปลูกมะพร้าวประมาณ 20,000 ไร่ และเกิดการระบาดของหนอนหัวดำไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 อำเภอ คาบสมุทรสทิงพระ ที่พบมากกว่าพื้นที่อื่นและในที่ประชุมได้สรุปวิธีกำจัดหนอนหัวดำได้หลายวิธี เช่น การใช้สารเคมี การใช้แตนเบียน และการบำรุงดูแลรักษาสวนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ได้ร่วมหารือถึงแผน 3 ระยะในการจัดการหนอนหัวดำมะพร้าว ซึ่งประกอบด้วย 1.แผนระยะสั้น/เร่งด่วน ได้แก่ เร่งสำรวจพื้นที่การระบาด, ทำลายและควบคุมด้วยสารเคมี (พื้นที่ระบาดปานกลางและรุนแรง) เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง, เฝ้าระวังในพื้นที่ใกล้เคียงหรือพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ที่มีการปลูกมะพร้าว และปล่อยแตนเบียนศัตรูธรรมชาติในพื้นที่ที่มีการระบาดน้อยและพื้นที่เฝ้าระวัง

ส่วน 2. แผนระยะปานกลาง ได้แก่ สร้างการรับรู้ศัตรูมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง, จัดตั้งศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชนในการผลิตขยายแมลงศัตรูธรรมชาติ, อบรมให้ความรู้ในการผลิตแมลงศัตรูธรรมชาติเพื่อบริการชุมชน และรณรงค์การปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติในช่วงก่อนเกิดการระบาด เพื่อลดปริมาณของหนอนหัวดำมะพร้าว และ 3. แผนระยะยาว ได้แก่ สร้างการรับรู้ศัตรูมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง, สร้างความเข้มแข็งให้ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนหรือศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน ในการผลิตขยายแมลงศัตรูธรรมชาติและปล่อยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดทำชุมชนต้นแบบการจัดการศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเอง และมีความรู้ความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ศัตรูพืชได้ในอนาคต