เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา เดินทางมาเป็นพยานในคดีดิไอคอน กรุ๊ป พร้อมกล่าวถึงกรณีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา

ทนายเดชา เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาเป็นพยานในคดีดิไอคอน ไม่ได้มาเป็นทนายความ และไม่ได้มาเยี่ยมทนายตั้มและภรรยา แต่ก็อยากฝากให้ทนายตั้มมีสติ หากสิ่งใดผิดก็ยอมรับผิด หากไม่ผิดก็สู้คดีไป ซึ่งตัวทนายตั้มก็มีการทำใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยตนมีการพูดคุยกับนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความผู้ต้องหา ที่ได้มีการเขียนคำร้องอยู่ที่ศาล ว่าจะไม่ประกันตัวทนายตั้มวันนี้ แต่จะยื่นประกันตัวเฉพาะตัวภรรยาไปก่อน ซึ่งตัวภรรยาก็มีโอกาสที่จะได้รับการประกันตัว เนื่องจากไม่ได้เป็นการฉ้อโกง แต่เพียงมีชื่ออยู่ในบ้านเท่านั้น ส่วนหลักทรัพย์ก็ยื่นตามเกณฑ์ไปก่อน 2-5 แสนบาท หลังจากนั้นหากศาลสั่งเพิ่มหลักทรัพย์ ก็เพิ่มตามคำสั่งศาล

เตรียมคุมตัว ‘ทนายตั้ม-เมีย’ ส่งศาลฝากขัง คัดค้านประกันตัวหวั่นยุ่งเหยิงพยาน

เมื่อถามว่าจะร่วมเป็นทนายให้ทนายตั้มหรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ไม่ เพราะฝีมือไม่ถึง และทนายตั้มมีทีมทนายแล้ว และมีที่ปรึกษาอีกหลายคน รวมไปถึงคดีนี้ไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่สังคมตัดสินไปแล้ว แพ้คดีศาลโซเชียลแล้ว ก็ไปสู้ในศาลยุติธรรมต่อไป

ยืนยันว่าไม่มีเพื่อนทนายคนไหนทิ้งทนายตั้ม แต่พูดออกไปแล้วทัวร์ก็ลง ไม่ได้สละเรือ ทุกคนยังรักทนายตั้มเหมือนเดิม และยังเป็นทีมอเวนเจอร์อยู่ แต่สิ่งไหนทำผิดก็รับโทษไป และเชื่อว่าทางทนาย มีการวางแผนและมีแนวทางในการต่อสู้คดีอยู่แล้ว เพราะคดี 39 ล้าน ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนทนายตั้มก็ได้มีการเตรียมหลักฐานชี้แจงไว้แล้ว พร้อมยื่นให้กับทางตำรวจทันที

“ส่วนที่มีคดีรอคิวอยู่อีกเยอะนั้น ทำอะไรไว้ก็ต้องรับไป รักกันอยู่ แต่ก็กลัวทัวร์ลง พูดอะไรมากไม่ได้ อยากจะเข้าไปเยี่ยมยังกลัวเขาไม่ให้เข้าไปเยี่ยมเลย” ทนายเดชา กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงนี้ทนายมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามายุ่งเกี่ยวเยอะ มองเรื่องนี้อย่างไร ทนายเดชา กล่าวว่า เป็นเรื่องของบุคคล วงการทนายไม่ได้มีอะไรเสียหาย.