รศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาให้ความรู้ถึงวิธีการดูแลผู้ป่วยโรคไต หากเป็นแล้วดูแลกันอย่างไร  

อาการของโรคไตเป็นอย่างไร

สำหรับ โรคไต อาการ สามารถแบ่งออกได้ 2 ระยะหลัก ๆ ได้แก่

1. โรคไตอาการเริ่มต้น อาการของผู้ป่วยโรคไตระยะแรก มักมีอาการ ดังนี้

  • ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • เหนื่อยง่ายมากกว่าปกติ
  • บางรายอาจมีอาการน้ำหนักลดลงผิดปกติ
  • ผิวหนังแห้งซีดและมีจ้ำเลือดตามร่างกาย
  • เบื่ออาหาร และคลื่นไส้อาเจียน
  • มือเท้าชา ปวดบริเวณบั้นเอว
  • ปวดศีรษะบริเวณขมับหรือท้ายทอย
  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ

2. โรคไตระยะสุดท้าย อาการของผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้ายมีอาการ ดังนี้

  • ปัสสาวะลดน้อยลงหรือแทบไม่ปัสสาวะเลย
  • เลือดออกหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
  • หายใจเองลำบาก
  • กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
  • ปอดบวมและไอหรืออาเจียนเป็นเลือด
  • มีอาการชักหรือหมดสติบ่อยครั้ง
  • กระดูกแตกหักได้ง่าย
  • เลือดหยุดไหลยาก เนื่องจากการทำงานของระบบเลือดผิดปกติ
  • มีอาการติดเชื้อหรือเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย

วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วย โรคไต

โรคไตหากเป็นมาจนถึงระยะเรื้อรังแล้วอาจไม่สามารถทำการรักษาให้หายขาดจากโรคได้แต่สามารถประคองและรักษาให้อาการดีขึ้นได้ ขึ้นอยู่ที่คนไข้ดูแล และรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองได้ดีแค่ไหน

ทั้งนี้วิธีการดูแลตัวเองหรือคนรอบข้างเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต สามารถทำตามได้ ดังนี้

  • ใส่ใจในเรื่องอาหารการกินมากขึ้น ไม่รับประทานอาหารรสจัดเป็นประจำ
  • ไม่ควรหายามารับประทานเองอย่างเด็ดขาด ควรอยู่ในการดูแลและคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก
  • หากมีโรคแทรกซ้อนควรระมัดระวัง และควรทราบถึงวิธีการดูแลอาการของโรคเหล่านั้น
  • รักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสของการติดเชื้อ
  • รู้จักเฝ้าสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากพบว่ามีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
  • ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง

การดูแลเบื้องต้นเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ

ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไต เพื่อหลีกเลี่ยงและลดอัตราการป่วยที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสามารถบรรเทาการเกิดโรคแทรกซ้อนและส่งผลให้อาการของโรคดีขึ้นได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตควรได้รับการรักษาและทราบถึงวิธีรักษาโรคไตอย่างถูกต้อง นอกจากนี้การรักษาที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด คือการเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เช่น แพทย์เฉพาะทางหรืออายุรแพทย์โรคไต  การเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสิ่งสำคัญอย่างการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและดีขึ้นในที่สุด