นายทวีทรัพย์ โล้วเจริญรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เชิญเที่ยวชมงานแสดงแสงสีเสียง เรื่อง “อัปสรรัตติกาล เทวสถานศีขรภูมิ” ณ สนามบริเวณด้านหน้าตัวปราสาทระแงง หรือ ปราสาทศีขรภูมิ ในวันที่ 16-17 พ.ย. 2567 บัตรเข้าชม ราคา 100 บาท เริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น.
“ปราสาทระแงง” หรือ “ปราสาทศีขรภูมิ” เป็นปราสาทที่มีอายุสมัยราวพุทธศตวรรษที่ 17และบูรณปฏิสังขรณ์ราวพุทธศตวรรษที่ 22–23 ที่ก่อสร้างด้วยอิฐ หินทราย และศิลาแลง ประกอบด้วย ปราสาทอิฐ 5 องค์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีปราสาทประธาน 1 องค์อยู่ตรงกลาง และมีปราสาทบริวาร 4 องค์ ล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศ ทั้งหมดตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน และมีสระน้ำล้อมรอบเว้นทางเข้าด้านหน้าด้านหลัง ปราสาทประธาน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม ไม่มีมุขยื่น มีประตูทางเข้า-ออกด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว ทับหลังแกะสลักจากหินทรายรูปศิวนาฏราชบนแท่น มีรูปหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมาอยู่ด้านล่าง ส่วนเสาประดับกรอบประตูสลักเป็นลายเทพธิดา ลายก้ามปู และรูปทวารบาล ส่วนบริเวณหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น
โดยปราสาทบริวาร มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม มีประตูทางเข้า-ออกด้านทิศตะวันออกด้านเดียว พบทับหลัง 2 ชิ้น สลักด้วยหินทราย ชิ้นที่หนึ่งสลักเป็นภาพพระกฤษณะประลองกำลังกับช้างและคชสีห์ ชิ้นที่สองสลักเป็นภาพพระกฤษณะประลองกำลังกับคชสีห์ ส่วนปราสาทบริวารองค์ด้านหน้าขวาของปราสาทประธานพบจารึกหินทรายบนผนังกรอบประตู เป็นจารึกอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทย-บาลี กล่าวถึงเรื่องราวของกลุ่มพระเถระผู้ใหญ่ และท้ายพระยา ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานแห่งนี้
ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเนื่องในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย และต่อมาคงมีการดัดแปลงให้เป็นวัดในพุทธศาสนา ตามที่มีหลักฐานการบูรณปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่ 22–23 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากลักษณะลวดลายบนเสาประดับกรอบประตูและทับหลัง ปราสาทศีขรภูมิอยู่ในศิลปะขอมแบบบาปวน (พ.ศ. 1560–1630) และแบบนครวัด (พ.ศ. 1650–1720)
ปัจจุบันปราสาทศีขรภูมิได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้ว โบราณวัตถุที่พบนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ อาทิ ทับหลังรูปพระกฤษณะทั้ง 2 ชิ้น กลีบขนุน รวมถึงแบบจำลองปราสาท ทั้งนี้ “ปราสาทระแงง” หรือ “ปราสาทศีขรภูมิ” ได้เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00–18.00 น.
