“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงสนามพบ “เจงกิสข่าน” มองโกเลีย ในนัดประเดิมสนามฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก กลุ่ม J ที่ประเทศมองโกเลีย ในวันที่ 25 ต.ค. เวลาไทย 10.00 น. ที่สนามเอ็มเอฟเอฟ สเตเดียม ถ่ายทอดสด AIS PLAY และ ช่องวัน 31 ถ่ายทอดสด ทีมชาติไทย สวมชุดสีกรมท่า ส่วนมองโกเลีย สีขาว

สำหรับการพบมองโกเลีย นั้น 11 ผู้เล่นของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู เกียรติพล อุดม, แนวรับจากขวา นาคิน วิเศษชาติ, วันชาติ ชูสงค์, โจนาธาน เข็มดี, จตุรพัช สัทธรรม กองกลางรับ 2 คน พงษ์รวิช จันทวงศ์ กับกัปตันทีม “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, กลางตัวบนซ้าย ตะวัน โคตรสุโพธิ์ กลางตัวบนขวา สกุลชัย แสงโทโพธิ์ มิดฟิลด์ตัวรุก เบนจามิน เจมส์ เดวิส กองหน้าตัวเป้าใช้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

ส่วน มองโกเลีย ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ชูอิชิ มาเสะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น ต้องเดินทางกลับไปรักษาดวงตาที่ประเทศญี่ปุ่นแบบเร่งด่วน ทำให้ไม่สามารถอยู่คุมทีมด้วยตัวเองได้ ส่วนนักเตะในทีมชุดนี้มาจากทีมชุดใหญ่ถึง 7 คนด้วยกัน นำโดย กันบายาร์ กันโบลด์ ตัวรุกวัย 20 ปีที่เล่นในลีกสโลวาเกีย รวมถึงมองค์-ออร์กิล ออร์คอน และบัตมไน เซรีคู ผู้รักษาประตูวัย 19 ปีอีกด้วย

ด้าน “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าโค้ช กล่าวถึงเกมแรก ที่จะพบ มองโกเลีย ว่า ตอนนี้นักเตะปรับตัวได้แล้วกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาว พร้อมสำหรับเกมพบมองโกเลีย นัดแรกของทุกทัวร์นาเมนต์เป็นเกมที่สำคัญเสมอ ส่วนมองโกเลียในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีพัฒนาการที่ดีเยี่ยม เชื่อว่าจะเป็นเกมที่สนุก ขณะที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า ในเกมกับ มองโกเลีย หากทีมชาติไทย สามารถชนะได้ จะมีโบนัสให้ 1 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่องทางจำหน่ายตั๋วออนไลน์ที่ขายไว้ 1,200 ใบ ขายไปแล้ว 1,100 ใบ และจะมีจำหน่ายหน้าสนาม 1,300 ใบ คาดว่าจาก 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม 2,500 คน จะมีแฟนบอลเข้ามาเชียร์เต็มความจุแน่นอน

สำหรับรอบนี้ จะคัดทีมแชมป์กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เข้ารอบไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศอุซเบกิสถานปีหน้า

ขณะเดียวกัน จากการประชุมผู้จัดการทีม เมื่อ 24 ต.ค. ได้ข้อสรุปว่า สามารถเปิดเพลงชาติไทยได้ ส่วนธงชาติที่แฟนบอลจะนำเข้าสนามต้องรอหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการจาก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี)

ส่วนกติกาอื่น เปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน 3 ครั้ง, ไม่รวมพักครึ่งเวลา, ไม่ใช้ VAR, ตลอด 3 แมตช์ แฟนบอลเข้าสนามได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ.