เมื่อเวลา 10.30 น. เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูง เดินทางลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด เพื่อตรวจราชการและให้กำลังใจประชาชน


โดยจุดแรก นายอนุทิน เดินทางมายังชุมชนบ้านคลองมาด ซึ่งเป็นพื้นที่ติดทะเลและทำการประมง และพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว  ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง นายอนุทินและคณะ ได้เดินทางพบปะประชาชนโดยรอบ พร้อมพบกับนายสวงค์ รำไพ ชาวบ้านเกาะกูด ผู้อาวุโสอายุ 92 ปี ผู้ที่อาวุโสที่สุดบนเกาะกูด ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ก๋ง” 

โดยนายอนุทิน ได้ขอบคุณ “ก๋งสวงค์” ที่ชี้แจงแทนรัฐบาล กับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 67 ว่าเกาะกูดเป็นของไทย และก๋งยังขอให้นายอนุทิน ช่วยเรื่องที่ดินทำมาหากิน ที่ประชาชนบางส่วนยังไม่ได้สิทธิ เพื่อที่ประชาชนจะได้รักเกาะกูดมากขึ้น 

ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้สอบถามเรื่องไฟฟ้าและประปาในพื้นที่ว่าเป็นเช่นไร หน่วยงานรัฐได้รายงานว่า ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการใช้น้ำบาดาล ส่วนไฟฟ้ามีปัญหาเรื่องความเสถียร ส่งผลกระทบให้กับผู้ประกอบการบ้าง 

จากนั้นนายอนุทิน กล่าวถึงเรื่องเกาะกูด ที่เกิดประเด็นการเมืองในขณะนี้ ว่า เกิดบางครั้งคนไม่เข้าใจ ต้องการทำให้มันเป็นประเด็น ก็เอาเรื่องดินแดนตรงนี้เข้ามา ซึ่งมันไม่ใช่ เกาะกูด หากพูดกันตรงๆ อยู่ในสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ส่วนนี้เป็นของเรา ตอนที่เรายกส่วนพระตะบอง เสียมราฐ ก็เหมือนกับแลกทางนั้นไป ทางนี้เป็นของเราแล้ว คิดดูง่าย ๆ เรามาไม่ต้องใช้พาสปอร์ต เข้ามาได้ไม่มีใครห้าม แต่ถ้าเป็นคนต่างชาติที่ไม่ใช่คนไทยเข้ามาที่นี่ ก็ต้องผ่านวิธีตรวจคนเข้าเมือง แบบนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ตรงนี้ต้องขอฝากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้สร้างความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ 

“ขอบอกว่าไม่ต้องกังวล รัฐบาลนี้ขอให้ความมั่นใจ ไม่มีวันยอม ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน ไม่มีทางที่จะยอมเสียดินแดน อย่าว่าแต่เกาะทั้งเกาะเลย ตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เราอย่าไปเสียเวลาคิดกับเรื่องที่ไม่มีวันเกิด แต่มาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในชุมชนได้ประดับธงชาติไทย ในทุกบ้านเรือน ขณะที่นายอนุทิน ได้ขึ้นสะพานข้ามคลอง และนำธงชาติไทย 2 ผืน มาวางไว้เหนือศีรษะ.