มีแต่ประเด็นร้อนไม่เคยได้พัก สำหรับ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีแต่ศึกวิวาทะสะท้อนภาพ วัดพลังภายในพรรคไม่จบไม่สิ้น ล่าสุดจุดประเด็นร้าวรอบใหม่ จากโพลประเมิน ส.ส.ใต้สอบตก 

ภายหลังมีรายงานข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำในกลุ่มจัดทำโพลเพื่อประเมินความนิยม ส.ส.ของพรรคในแต่ละภาค โดยให้น้ำหนักกับพื้นที่ กทม.และภาคใต้เป็นพิเศษ 

เนื่องจากมองว่า ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับเลือกมาเพราะได้กระแสของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แตกต่างจากภาคเหนือและอีสาน ที่ ส.ส.ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งถูกมองว่าได้เป็น ส.ส. ด้วยปัจจัยอื่น นอกเหนือจากกระแส พล.อ.ประยุทธ์ 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มองได้สองมุม หากจะว่ากันในมุมดีก็มีอยู่ คือเพื่อนำผลโพลมาใช้ปรับทัพเสริมจุดอ่อนวางเกมรุกสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งหลายพรรคก็ทำโพลประเมิน เพื่อปรับปรุงนำนโยบายของพรรคไปสู่การปฏิบัติให้ตอบโจทย์ตรงกับแต่ละพื้นที่

แต่ทว่าอีกมุม ต้องยอมรับว่าสำหรับพรรคพลังประชารัฐที่ภาพเห็นชัดว่าเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะเมื่อผลโพล ปรากฏออกมาว่า จาก ส.ส. 14 คน มีผู้ที่ผ่านเกณฑ์เพียง 4 คน นอกจากนั้นสอบตก ทำให้ทันทีที่โพลสะพัด ส.ส.ใต้ออกมารุมสับทันที 

อย่าง นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาระบุไม่สนใจโพล ลั่นเวลานี้สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร มั่นใจยี่ห้อ “บิ๊กตู่” ยังขายได้ในภาคใต้ ขณะที่ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ซัดโพลไร้สาระ ยืนยันไม่หวั่นไหวทองแท้ก็คือทองแท้

นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าการปล่อยให้โพลนี้หลุดออกมา หวังใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ส่ง ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิมลงเลือกตั้งในนามพรรคครั้งต่อไป เพื่อแซะเอาคนของตัวเองลงสนามแทนหรือไม่ เนื่องจาก ส.ส.หลายคน ไม่ใช่คนในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส อีกทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำโพลดังกล่าวจะถูกใช้เป็นเงื่อนไขกดดันให้ ส.ส.มาขึ้นตรงกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส แลกกับการถูกส่งลงสมัครในครั้งต่อไปหรือไม่อีกด้วย

อย่างไรก็ตามจากโพลร้อนส่อจุดชนวนขัดแย้งภายพรรครอบใหม่ย้ำแผลเก่าที่ยังไม่สมาน ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส ก็โยนเผือกร้อนไปที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แจงจัดทำโพลพรรคเป็นดำริ “บิ๊กป้อม” พร้อมชี้เรื่องปกติพรรคการเมือง ประเมิน ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ข้องใจ ส.ส.จะน้อยใจเรื่องอะไร ย้ำเป้าหมายเพื่อปรับปรุงจุดอ่อนให้พรรคเข้มแข็งในอนาคต

แม้ ร.อ.ธรรมนัส จะโยนว่าเป็นดำริของหัวหน้าพรรค แต่ใครๆ ก็รู้ว่าคนที่เป็นมือเป็นไม้เป็นขุนทัพในการนำรบของ พรรคพลังประชารัฐ ตอนนี้ก็คือ ร.อ.ธรรมนัส 

นอกจากผลโพลสะเทือน ส.ส.ใต้แล้ว แรงกระทบชิ่งยังสะท้อนไปถึงรัฐบาลและ “บิ๊กตู่” ว่าผลการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่เข้าตาประชาชนหรือไม่ ส.ส.ใต้ถึงผ่านเกณฑ์แค่ 4 คน ทั้งที่ที่ผ่านมา รัฐบาลทุ่มเงินกู้ช่วยโควิดไปจำนวนมหาศาล และอัดงบฯ ลงโครงการในพื้นที่ภาคใต้ แต่ล่าสุดภาคใต้ สถานการณ์ยังอ่วมยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงต่อเนื่อง ทำให้ดึงกระแสรัฐบาลหล่นวูบ ขณะที่เศรษฐกิจในพื้นที่ก็ฟุบหยุดชะงัก

แม้จะเป็นแค่พื้นที่เดียว พื้นที่เล็กๆ แต่ก็เป็นการบ้านโจทย์ใหญ่ให้ “บิ๊กตู่” และคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทีมวางยุทธศาสตร์พรรคและรัฐบาลกลับไปคิดว่าสิ่งที่ทุ่มทำมา 2 ปีกว่า จะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ยังไม่เข้าตาหรือโดนใจใช่หรือไม่ 

รวมทั้งการแก้โจทย์สมานรอยร้าวภายในพรรค เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการปักธงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะถ้ายังปล่อยให้กระทบกระทั่งเป็นลิ้นกับฟันรายวันกันภายในพรรค หากปล่อยไว้ย่อมเป็นผลเสียทั้งกับพรรคและรัฐบาล…