เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้นำนายธิติรัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกฯ พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูห้องทำงานของแต่ละคนภายในตึกบัญชาการ 1 จากนั้นนายภูมิธรรม ได้มอบนโยบายและแบ่งงาน
ต่อมาเวลา 18.30 น. นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า วันนี้เชิญทั้ง 4 ท่านมาพูดคุยเป็นครั้งแรก เพื่อวางแผนการทำงาน โดยได้แบ่งงานให้ช่วยกันดูในหน่วยงานที่กำกับและร่างนโยบาย ซึ่งทั้งหมดก็รับไป โดย พล.อ.นิพัทธ์ ดูกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ต.อ.รอย ดูงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งตนได้พาเดินไปดูห้องทำงาน แต่ห้องที่จัดไว้ยังไม่เรียบร้อยเท่านั้นไม่มีอะไรมาก
เมื่อถามว่างานด้านความมั่นคงเน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนอยากให้มาดูว่างานด้านความมั่นคงแต่ละเรื่องมีอะไร และอยากให้มาดูในรายละเอียดว่าแต่ละงานมีประเด็นปัญหาอะไรที่ควรจะต้องทำให้ได้ผลที่ชัดเจน ซึ่งนโยบายด้านยาเสพติดเป็นเรื่องที่สำคัญที่ตนอยากดำเนินการให้แล้วเสร็จให้มีผลงานปรากฏชัด เพราะหน่วยงานต่างๆ ที่เราดูแลก็มีความเกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติดทั้งนั้น ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สมช. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สนช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยให้ทุกหน่วยงานไปดูว่าจะบูรณาการการทำงานกันอย่างไร เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดมีประสิทธิภาพที่เข้มงวดขึ้น และสามารถที่จะทำให้เรื่องยาเสพติดทุเลาเบาบางลงได้ ตนก็ให้เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญที่จะต้องทำให้เป็นจริงมากขึ้น
เมื่อถามต่อว่าจะทำให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของนายกฯ ที่ประกาศให้หลายจังหวัดในประเทศเป็นพื้นที่สีขาวปลอดยาเสพติด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในพื้นที่ต่างจังหวัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งหลายหมู่บ้านให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง แสดงว่ามีความรุนแรงและรัฐบาลนี้มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะพยายามทำให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว จึงเรียกมาพูดคุยเพื่อเตรียมการเรื่องเหล่านี้ รวมถึงการพูดคุยเรื่องเอ็มโอยู 44 ที่เราไม่ได้มีปัญหา แต่มีเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ต่างๆ ที่จะต้องไปดูให้ถี่ถ้วน เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญและทุกคนให้ความสนใจ.