สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่ากฎหมายฉบับใหม่ของฟิลิปปินส์ มุ่งลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 25% เหลือ 20% และนโยบายต่าง ๆ เช่น อนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ กำหนดให้พนักงานไม่เกินครึ่งหนึ่ง ทำงานจากที่บ้านได้ เป็นต้น

จากข้อมูลของ สำนักงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในฟิลิปปินส์ มีมูลค่าราว 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 215,245 ล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการลงทุนจากต่างประเทศในสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ที่ 159,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.5 ล้านล้านบาท), อินโดนีเซีย 21,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 749,887 ล้านบาท) และเวียดนาม 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 642,264 ล้านบาท)

เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ มักอ้างถึงค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูง, ข้อจำกัดของชาวต่างชาติในการเป็นเจ้าของ และโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดี กฎหมายดังกล่าวจึงอนุญาตให้ธุรกิจลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น รวมถึงการครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านพลังงานถึง 100%

ขณะที่ธุรกิจที่ก่อตั้งก่อนกฎหมายฉบับใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น ภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งขยายเวลาจาก 10 ปีไปเป็น 27 ปี

อย่างไรก็ดี เอกสารสรุปข้อมูลของรัฐบาลมะนิลา ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้อาจทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ 100.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,491 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า.

เครดิตภาพ : AFP