นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ไม่ว่าใครจะเป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ยังมีความเป็นอิสระเนื่องจากกฎหมาย พ.ร.บ. 2551 กำหนดไว้ชัดเจนว่า ประธานบอร์ดไม่สามารถแทรกแซงนโยบายการเงิน นโยบายการชำระเงิน และนโยบายการกำกับดูและสถาบันการเงินได้ ดังนั้น ธปท. ยังคงมีความอิสระ ยกเว้นมีข้อบกพร่องใน 2 ข้อหลัก คือ ทุจริตต่อหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่เสียหายอย่างร้ายแรง หรือหย่อนสมรรถภาพการทำงาน
“ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ปลดผู้ว่าคนปัจจุบันตามที่มีความกังวลไม่ได้ เพราะขณะนี้มีความประพฤติดี และถูกจำกัดในกฎหมายแล้วว่าเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ ยกเว้นได้รับแรงกดดันและลาออกเอง แต่มองว่าไม่ควรจะลาออก เพราะปัจจุบันถือเป็นคนมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว”
ขณะที่กระบวนการต่อไปหลังจากคัดเลือกประธานกรรมการ ธปท. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ทางประธานกรรมการคัดเลือก จะมีหนังสือไปยังผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รีบลาออก เพราะฉะนั้นจะขาดคุณสมบัติ จากนั้นจะมีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คือใคร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากที่ประชุม เพื่อส่งให้ รมว.การคลัง ในวันที่ 19 พ.ย. 67 นี้ จากนั้นเรื่องก็จะอยู่ที่ รมว.การคลัง จากนั้นจะต้องนำเรื่องเข้า ครม. และมีมติเพื่อส่งเรื่องทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง
ส่วนผู้ทรงวุฒินั้น รมว.การคลัง สามารถแต่งตั้งได้เอง ซึ่งจะเสนอ ครม. ให้รับทราบตามมารยาทหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจ และสำหรับการอยู่ระหว่างกระบวนการเหล่านี้ ถือว่ากระบวนการต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้น ฉะนั้นกรรมการคัดเลือกจึงไม่สามารถกล่าวถึงชื่อของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นประธานหรือผู้ทรงคุณวุฒิใดก็ตาม