เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผวจ.มหาสารคาม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.มหาสารคาม นำตัวนายอภิสิทธิ์ โพธิจักร์ อายุ 35 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่โพสต์ขู่กราดยิงเด็กนักเรียนอนุบาลใน จ.มหาสารคาม มาถึงที่ สภ.โกสุมพิสัย ภายหลังจากที่เดินทางโดยรถตู้ไปรับตัวนายอภิสิทธิ์ ที่สภ.บางกรวย หลังจากชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ได้ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัวนายอภิสิทธิ์ ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายวิบูรณ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ โพสต์ข้อความข่มขู่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ว่าจะมีการกราดยิงเด็กนักเรียนอนุบาลในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ทำให้ประชาชนแตกตื่น ผู้ปกครองเด็กในโรงเรียนอนุบาล และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะ อ.โกสุมพิสัย ต่างไปแห่รับบุตรหลานกลับบ้าน สร้างความแตกตื่นและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าผู้โพสต์ คือ นายอภิสิทธิ์ โพธิจักร์ และสามารถจับกุมตัวได้ในพื้นที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยได้นำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.โกสุมพิสัย
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ต่อมาศาลจังหวัดมหาสารคามได้ออกหมายจับ ที่ จ.316/2567 ลงวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิด ฐานแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยของสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
ซึ่งจากการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง เนื่องจากมีปัญหาครอบครัวและเกิดความเครียด ที่ได้เลิกรากับภรรยาไป ตอนนี้อยู่ระหว่างรอทำเรื่องหย่า จากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พูดจาโต้ตอบรู้เรื่อง และที่โพสต์ไปเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ
จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า ควรใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้ถูกต้อง ก่อนจะโพสต์ ก่อนจะแชร์ข้อความใด ๆ ออกไปขอให้ใช้วิจารณญาณให้ดี ๆ เนื่องจากหากถูกดำเนินคดีนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ยิ่งกรณีข่มขู่ในลักษณะนี้ ศาลก็อาจพิจารณาโทษสูงสุด เนื่องจากทำให้ประชาชนแตกตื่นในวงกว้าง และขอประชาสัมพันธ์ในประชาชนได้ทราบว่า ขณะนี้สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว พี่น้องประชาชนสบายใจได้ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ. ยังคงกวดขันเข้มงวด ออกตรวจความเรียบร้อยโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นักเรียน และผู้ปกครอง.