อาจารย์แพทย์หญิงธนนันท์ ธรรมมงคลชัย สาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป แม้ส่วนมากจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสามารถหายเองได้จากการกินยาหรือพักสักระยะ แต่ยังมีอาการ ปวดศีรษะ บางประเภทที่อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงบางอย่าง ปวดหัวแบบไหนไม่ควรนิ่งนอนใจ และจริงไหมที่ ตำแหน่งปวดหัวบอกโรค ได้ เรามาหาคำตอบกัน

อาการปวดหัว คืออะไร อาการปวดบริเวณศีรษะหรือลำคอส่วนบน เกิดได้หลายรูปแบบ เช่น ปวดตลอดเวลา ปวดเป็นพัก ๆ ปวดตุ้บ ๆ ปวดแปล๊บ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย 

สาเหตุของอาการปวดหัว  แม้จะเป็นอาการ ปวดศีรษะ เหมือนกัน แต่อาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • กล้ามเนื้อตึงตัวรอบศีรษะ
  • โรคไมเกรน
  • โรคอื่น ๆ เช่น มีสิ่งผิดปกติในสมอง

ตำแหน่งปวดหัวบอกโรค ได้จริงหรือ

ตำแหน่งปวดหัวสามารถบอกโรคได้ในระดับหนึ่ง 

  1. ปวดหัวเหมือนมีอะไรมารัด เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัวหรือความเครียด เป็นอาการปวดที่พบได้บ่อย และไม่ได้มีความร้ายแรง
  2. ปวดหัวข้างเดียว อาจเป็นไมเกรนหรือไม่ใช่ก็ได้
  3. ปวดจากบ่าลามขึ้นไปที่หัว เป็นอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม

4ความเชื่อ ตำแหน่งปวดหัวบอกโรค

มีความเชื่อที่แชร์ต่อ ๆ กันมาว่า ตำแหน่งของการปวดหัวสามารถบอกได้ว่า เป็นโรคอะไรอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่

ความเชื่อที่ 1 ปวดหัวข้างเดียวเป็นไมเกรน 

ความเชื่อนี้ไม่จริง ปวดไมเกรนมีลักษณะจำเพาะหลายอย่าง การปวดหัวข้างเดียวเป็นเพียงหนึ่งในอาการของไมเกรนเท่านั้น แต่คนไข้ยังต้องมีอาการอื่นๆ ตัด อีกถึงจะเรียกได้ว่าเป็นโรคไมเกรนจริง ๆ โรคนี้ส่วนใหญ่พบในวัยนักศึกษา วัยทำงาน แต่หากมีอายุ 40 ปีขึ้นไป แล้วไม่เคยปวดหัวมาก่อนมักไม่ใช่อาการของไมเกรน 

ลักษณะของการปวดหัวไมเกรน

  1. ปวดหัวตุ้บ ๆ เหมือนเส้นเลือดกำลังเต้นอยู่บนศีรษะ 
  2. ปวดหัวข้างเดียว อาจสลับข้างได้หรือปวดหัวทั้ง 2 ข้างได้ 
  3. มีอาการปวดหัวอยู่ระยะเวลาหนึ่ง เช่น ปวดเป็นชั่วโมง และปวดรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทำงานไม่ไหว เป็นต้น 
  4. เมื่อปวดหัวรุนแรงระดับหนึ่ง คนไข้มักมีอาการคลื่นไส้ 
  5. มีอาการแพ้แสง แพ้เสียง เมื่อเจอแสงจ้า เสียงดัง ๆ หรือได้กลิ่นฉุน เช่น น้ำหอม ควัน จะปวดหัวมากขึ้น 

ความเชื่อที่ 2 ปวดตรงโหนกแก้ม กลางใบหน้า เป็นไซนัสอักเสบ

ความเชื่อนี้ไม่จริง อาการปวดตรงโหนกแก้มหรือปวดตรงใบหน้าเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับคนไข้ไซนัสอักเสบบางราย แต่การปวดบริเวณนี้ยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้ด้วย เช่น การปวดจากเส้นประสาทคู่ที่ 5 มักจะปวดบริเวณครึ่งล่างของใบหน้า มีความปวดร้าวเหมือนปวดฟัน 

ความเชื่อที่ 3 ปวดหัว ปวดหู แถมปวดกราม เป็นโรคข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ความเชื่อนี้ไม่จริง อาการปวด 3 อย่างนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ เช่น ปวดหู อาจเป็นหูชั้นกลางหรือหูชั้นนอกอักเสบ หากปวดกรามอาจเกิดจากการกัดฟันตอนนอน แล้วส่งผลให้ปวดตอนกลางวัน อาการเหล่านี้เป็นโรคใกล้ตัวที่พบได้บ่อย ซึ่งหลายคนมองข้ามไป

ความเชื่อที่ 4 ปวดหัวรุนแรง ฉับพลัน เป็นโรคอันตรายทางสมอง

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะหากเป็นอาการปวดหัวที่บ่งบอกถึงโรคทางสมอง คนไข้จะต้องมีอาการอื่นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ซึม อ่อนแรง

อาการปวดหัวที่ต้องระวัง

อาการปวดหัวแบบไหนที่ไม่ใช่การปวดแบบทั่วไป อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่างได้

  1. ปวดหัวร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  2. ปวดหัวตอนกลางคืนจนทำให้ตื่น
  3. ปวดหัวแบบมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว อ่อนแรงครึ่งซีก ซึม รู้สึกตัวน้อยลง ชัก

คำแนะนำสำหรับคนปวดหัวบ่อย 

แม้การกินยาเมื่อเริ่มมีอาการปวดหัวไมเกรนจะเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรคนี้ แต่ปัจจุบันยังมีการรักษาแบบ ตัด อีกแบบ เป็นการรักษาแบบป้องกัน โดยแพทย์จะให้ยาที่ช่วยลดความถี่ของการเกิดอาการปวดหัว ทำให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

อาการ ปวดหัว เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่หากปวดหัวบ่อยและรุนแรง หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป