อาการแพ้ยา เป็นปฏิกิริยาการต่อต้านของร่างกาย เกิดขึ้นได้กับยาทุกชนิด ความรุนแรงของอาการที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน “โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย” บอกเล่าสาระความรู้และวิธีปฏิบัติตัวต่อภาวะอาการแพ้ยา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบเฉียบพลันที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และแบบไม่เฉียบพลัน ซึ่งอาการแพ้แบบรุนแรง มักแสดงอาการหลายระบบร่วมกัน

อาการแพ้ยาแบบเฉียบพลันรุนแรง ได้แก่

@ ผื่นลมพิษทั่วตัว

@ ตาบวม ปากบวม

@ หอบเหนื่อยขึ้นทันที กรณีอาการรุนแรงมากอาจมีเสียงวี้ด

@ ความดันโลหิตต่ำอย่างมีนัยยะสำคัญ

อาการแพ้ยาแบบไม่เฉียบพลันรุนแรง มีดังนี้

@ ผื่นที่ผิวหนังรุนแรง เกิดตุ่มพอง ผิวหนังลอก

@ แผลในปาก เจ็บแสบตา ตาแดง

@ ไข้สูง ตาเหลือง

สำหรับยากันชัก และยารักษาโรคเก๊าต์ (ยาลดกรดยูริก) ทำให้เกิดอาการแพ้ไม่เฉียบพลันแต่รุนแรง ส่วนยาที่ทำให้เกิดอาการแพ้ “ที่พบบ่อย อาทิ ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาปฏิชีวนะ ซึ่งมักทำให้เกิดอาการแพ้เฉียบพลัน

ทำอย่างไรหากสงสัยว่าแพ้ยา

1.หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการแพ้ยา ควรหยุดการใช้ยานั้นทันที

2.นำยาที่ใช้ทั้งหมด พร้อมฉลากและชื่อยา ไปพบแพทย์ด้านภูมิแพ้

3.ถ่ายภาพอาการที่เกิดขึ้นเพื่อประกอบการวินิจฉัยและป้องกันภาวะแพ้ยาซ้ำ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

4.หากมีอาการแพ้ดังกล่าว และมีอาการรุนแรง ควรโทรศัพท์สายด่วน 1669 เรียกรถพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาทันที