เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ จ.อุดรธานี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีงานสัมมนาพรรค พท. ว่า จะมีขึ้นในวันที่ 13-14 ธ.ค. และคาดว่าน่าจะไปที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยไปและกลับโดยรถไฟ เพียงแค่ สส. และสมาชิกพรรคบางส่วนที่จะไปร่วมสัมมนาด้วย ทั้งนี้ จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปี ในวันที่ 12 ธ.ค. แต่ไม่แน่ใจว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเรียกประชุมเลยหรือไม่
เมื่อถามว่า ในกำหนดการจะมีการเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปร่วมงานสัมมนาด้วยในฐานะนักวิชาการ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. ได้เชิญหรือไม่
เมื่อถามว่า การที่พรรคเชิญในฐานะนักวิชาการนั้น สามารถทำได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วก็ทำได้ เพราะนายทักษิณเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งพรรคสามารถเชิญไปเป็นวิทยากรก็ได้ ไม่มีสิ่งที่ผิดอะไร
เมื่อถามต่อว่า หากนายทักษิณไปในลักษณะนี้กังวลหรือไม่ เพราะเป็นกิจกรรมพรรค นายสรวงศ์ กล่าวว่า แล้วแต่คิด อย่างที่บอกว่าคนจะร้องก็ร้อง แต่ในส่วนที่มันเกิดขึ้นนั้น อย่าไปมองอะไรที่เป็นเรื่องหยุมหยิม กฎหมายพูดชัดเจนว่าหากครอบงำจนสมาชิกพรรคไม่มีอิสระในการตัดสินใจ ก็จะชัดเจนว่าเป็นข้อหาครอบงำ แต่สิ่งที่ผ่านมาเราชัดเจนอยู่แล้วว่าทุกอย่างเป็นมติพรรค และมติของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ฉะนั้น เราทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่มีใครมาครอบงำพรรคได้แน่นอน เพราะพูดคุยกันชัดเจนในที่ประชุมพรรค ว่าต่างคนต่างมีความเห็นเช่นนั้นเช่นนี้ ซึ่งเมื่อมีมติพรรคออกมาแล้วก็คือมติพรรค
เมื่อถามถึง กรณีที่นายทักษิณปราศรัยบนเวทีว่าพรรค พท. จะได้ไม่ต่ำกว่า 200 เสียงนั้น ถือเป็นการบ้านยากหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ท่านพูดชัดเจนว่าท่านคาดว่า และดูจากการทำงานของนายกรัฐมนตรีและทีมงาน แต่ถามว่าเป็นโจทย์ของพวกตนหรือไม่ ก็เป็นโจทย์ของพวกตนอยู่แล้ว ก่อนที่นายทักษิณจะพูดนั้น น.ส.แพทองธาร ก็มีเป้าหมายที่จะทำให้พรรคกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งเป็นเป้าหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่เมื่อนายทักษิณมาพูด แล้วพรรค พท. จึงจะต้องกระตือรือร้นนั้น ไม่ใช่
เมื่อถามว่า 200 เสียง ถือว่าเยอะหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในการเมืองปัจจุบัน อย่างน้อยที่สุดก็ได้มากกว่าที่ผ่านมา และเราจะพยายามทำเต็มที่ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชน ซึ่งเวลาที่เราเหลืออยู่ เราก็จะพยายามยามอย่างยิ่ง ที่จะทำผลงานให้ออกมาสู่สายตาพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด
