เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ย. 67 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย สมาชิกรัฐสภา ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งรัฐสภาไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับสหภาพรัฐสภา (IPU) และองค์การอนามัยโลก (WHO) วันที่ 2-3 ธ.ค. 67 ณ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยและรัฐสภา ได้รับความไว้วางใจและได้รับเกียรติจากรัฐสภาโลก หรือ IPU ให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพ ในระดับเอเชียแปซิฟิก ที่มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุม 40 กว่าประเทศ นับว่าเป็นเกียรติสำหรับประเทศไทยและรัฐสภาไทย โดยเฉพาะวงการสาธารณสุขของประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีการบริการทางด้านสาธารณสุขในระดับชั้นนำของโลก ไม่เกินลำดับ 5 ของโลก รัฐบาลไทยมีนโยบายอย่างชัดเจน ที่เป็นฮับเกี่ยวกับสาธารณสุขของโลก ที่ใครๆ จะต้องมารักษา นอกจากฮับทางด้านการท่องเที่ยว และฮับทางด้านวัฒนธรรม

ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การที่ไทยได้รับมอบหมายให้จัดประชุมครั้งนี้ เพราะเห็นว่าในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นประเทศไทยคือเป็นประเทศที่มีการจัดการป้องกันการแพร่ระบาดหรือชะลอการแพร่ระบาดได้อย่างดีที่สุด และยังมีระบบสาธารณสุขของไทย ที่จะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่น เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เครือข่ายสาธารณสุขที่มีทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ อย่าง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งปัญหาสุขภาพถือเป็นปัญหาที่สำคัญ ที่ปัจจุบันนอกจากจะต้องดูแลเด็กแรกเกิดแล้ว สิ่งที่รัฐบาลและประชาชนต้องให้ความสนใจแก่ผู้สูงวัยด้วย อย่างไรก็ตามการประชุมดังกล่าว เราจะได้ความเชื่อมั่นด้านสุขภาพของประชาชน โดยรัฐสภาจะช่วยในการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน สนับสนุนในด้านงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะใช้ดูแลประชาชน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะมีการการพาคณะที่เข้าร่วมประชุมไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การแพทย์และฟื้นฟูบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี และ BDMS  wellness clinic รวมทั้งพาผู้เข้าร่วมประชุมล่องเรือพระน้ำเจ้าพระยา ชมสถานที่ท่องเที่ยวในวันสุดท้ายของการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เราจะได้ประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์หลายอย่าง ทั้งด้านการรักษาสุขภาพ ด้านการท่องเที่ยวด้วย

ด้านนายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการ เรื่องการแพทย์และความปลอดภัยในการประชุม กล่าวว่า ในส่วนความพร้อมในการจัดการประชุม ทั้งการอำนวยความสะดวกในเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้กับคณะที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยเราได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะต้องเป็นไปในระดับสากล และการจราจรไปในที่ต่างๆ จะต้องสมเกียรติ และต้องไม่กระทบกับการสัญจรไปมาของประชาชน รวมทั้งจะต้องใช้งบประมาณเป็นไปอย่างประหยัดคุ้มค่า

ขณะที่ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ในฐานะอนุกรรมการด้านเนื้อหาสารัตถะ ของการประชุม กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการประชุมดังกล่าว คือการแลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือของรัฐสภา ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ในการระบาดใหญ่ของโรคในอนาคต และความมั่นคงด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค.