สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่า นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) กล่าวว่า การบรรลุ “ผลลัพธ์” ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งครั้งใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งลุกเป็นไฟจากสงครามของอิสราเอล กับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ทั้งนี้ การเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของกรอสซี เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังนายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กลาโหมอิสราเอลคนใหม่ กล่าวว่า อิหร่านเสี่ยงต่อการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์มากกว่าเคย ส่งผลให้อิสราเอลมีโอกาสบรรลุเป้าหมายสำคัญของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรอสซีกล่าวว่า โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน “ไม่ควรถูกโจมตี” แม้จะมีการคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะมอบอำนาจในการควบคุมอย่างอิสระมากขึ้นแก่อิสราเอล หลังเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือน ม.ค. ที่จะถึงนี้
ด้านอารักชี ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้เจรจาของอิหร่าน ในการเจรจาที่นำไปสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ ฉบับปี 2558 กับประเทศมหาอำนาจ โพสต์ข้อความว่า การประชุมระหว่างเขากับกรอสซี “มีความสำคัญ” และ “ตรงไปตรงมา”
“อิหร่านมีความเต็มใจที่จะเจรจา โดยยึดตามผลประโยชน์ของชาติ และสิทธิที่ไม่อาจแยกออกได้ แต่เราไม่พร้อมที่จะเจรจาภายใต้แรงกดดันและการข่มขู่” อารักชี กล่าวเพิ่มเติมว่า อิหร่านตกลงที่จะดำเนินการต่อไปด้วยความกล้าหาญและความปรารถนาดี พร้อมกับยืนยันว่า อิหร่านไม่เคยออกจากโต๊ะเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ.
เครดิตภาพ : AFP
