กล้วย เป็นผลไม้ยอดนิยมที่มีประโยชน์มากมาย แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า นอกจากผลของมันแล้ว “เปลือกกล้วย” ก็มีประโยชน์มหาศาลไม่แพ้กัน

เปลือกกล้วยมี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและกล้ามเนื้อ เราสามารถนำเปลือกกล้วยไปทำสมูทตี้ได้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการเผาผลาญ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ใยอาหารในเปลือกกล้วยยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ปรับปรุงการย่อยอาหาร และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

ใช้ผงเปลือกกล้วยในการเตรียมอาหาร

เราสามารถใช้เปลือกกล้วยได้ โดยใส่ลงในหม้อทอดไร้น้ำมันเพื่อย่าง หรือตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง เพียงเติมผงเปลือกกล้วยลงในสตูและสมูทตี้ จะช่วยเพิ่มสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากเปลือกกล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอลและแคโรทีนอยด์สูง ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งอาจลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ และมะเร็ง

ลดความเครียดและความวิตกกังวล

การเพิ่มสารสกัดจากเปลือกกล้วยลงในอาหาร อาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น ลดผลกระทบของความเครียดและความวิตกกังวล เนื่องจากเปลือกกล้วยมีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ ช่วยส่งเสริมการผ่อนคลาย การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ระดับเซโรโทนินที่เพิ่มขึ้นสามารถปรับปรุงความรู้สึกของการเยียวยา และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ดังนั้น เราสามารถใส่ผงเปลือกกล้วยในชาหรือซุป เพื่อปรับปรุงสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราให้ดีขึ้นได้

การดูแลผิว

น้ำมันธรรมชาติและสารต้านอนุมูลอิสระในเปลือกกล้วย ยังช่วยบำรุงผิวของเราได้อย่างมหัศจรรย์ เนื่องจากมีสารประกอบอย่างลูทีนและวิตามินอี ซึ่งทราบกันดีว่าสามารถต่อสู้กับริ้วรอย ลดจุดด่างดำ และปกป้องผิวจากอันตรายของรังสียูวี โดยเราสามารถนำเปลือกกล้วยด้านในไปถูบนใบหน้า 2-3 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยบรรเทาสิว จุดด่างดำให้จางลง และให้ความชุ่มชื้นกับผิวแห้ง ด้วยวิธีการง่ายๆ มาก

ลดอาการคันตามผิวหนัง

เปลือกกล้วยถือเป็นวิธีการรักษาตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ ในการช่วยลดการติดเชื้อ และการระคายเคืองผิวหนัง เช่น ผื่น แมลงสัตว์กัดต่อย หรือการถูกแดดเผา เปลือกกล้วยจะช่วยลดอาการคันและการอักเสบได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ ถูด้านในของเปลือกบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบแล้วปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที ผิวหนังที่คันจะบรรเทาความเจ็บปวดได้ทันที

ที่มาและภาพ : Soha, Times of India, StockSnap / Pixabay