เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้นำคณะพระสังฆาธิการที่นำโดยพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา และผู้นำเครือข่ายพุทธศาสนิกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
สำหรับการหารือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเปิดโลกทัศน์แกนนำเครือข่ายชาวไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 23-29 ต.ค.2564 ซึ่งคณะจะได้เข้าพบและหารือบุคคลสำคัญ อาทิ การเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อหารือแนวทางการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่นี้มาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ นายอนุชา กล่าวว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักประจำชาติ และเป็นเสาหลักสำคัญของชาติไทยและคนไทยทั้งประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราคนไทยควรทำนุบำรุงศาสนา จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ส่งผลกระทบระยะยาวและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยได้สั่งการให้ พศ.เร่งติดตามและให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการบูรณะวัด และการประสานงานอำนวยความสะดวกแก่คณะสงฆ์ พร้อมกำชับเรื่องการทำบุญที่วัดต่างๆ เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการใส่บาตร การสวดมนต์ รวมถึงโรงทานต่าง ๆ จะต้องมีการแยกหรือมีการกำหนดจำนวนคน และต้องกำหนดวิธีการในการทำบุญต่าง ๆ ให้เหมาะสม
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกคนและทุกส่วนราชการ รวมถึงภาคประชาชน และประชาสังคม ธุรกิจเอกชนต่างๆ ช่วยกันหามาตรการป้องกันของตัวเอง ตามมาตรการไทยแลนด์ พรีเวนชั่น (Thailand Prevention) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้