สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า ทำเนียบรัฐบาลเยอรมนีออกแถลงการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการสนทนาดังกล่าว ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถือเป็นการพบหารือทางโทรศัพท์ครั้งแรกในรอบสองปี ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ
ขณะที่แหล่งข่าวของทางเยอรมนีให้ข้อมูลว่า โชลซ์ประณามการที่กองทัพรัสเซียโจมตีทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของประชาชนในยูเครน ไม่ว่าจะเป็นกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา และกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ว่าการที่เกาหลีเหนือส่งทหารเข้ามาสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน เป็นการยกระดับและขยายขอบเขตความรุนแรงของสงครามครั้งนี้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม โชลซ์และปูติน เห็นพ้องการติดต่อหารือกันอย่าสม่ำเสมอมากขึ้นนับจากนี้ และผู้นำเยอรมนีจะแบ่งปันข้อมูลการสนทนาครั้งนี้กับพันธมิตรต่อไป ตามการเปิดเผยจากแหล่งข่าว
ด้านทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ ว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างปูตินกับโชลซ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตามคำเชิญของผู้นำเยอรมนี การสนทนาในภาพรวมเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น “อย่างตรงไปตรงมาและละเอียด” เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของทำเนียบเครมลินระบุด้วยว่า “ข้อตกลงใดก็ตาม”เพื่อยุติสงครามในยูเครน ต้องคำนึงถึง “ผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยของรัสเซียเป็นสำคัญด้วย” และ “การยอมรับความจริงใหม่เกี่ยวกับดินแดน” ตลอดจน “รากเหง้าของปัญหา”
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนออกแถลงการณ์ ประณามการสนทนาระหว่างโชลซ์กับปูติน ว่าสะท้อนความอ่อนแอของผู้นำเยอรมนี เนื่องจากเป็นการโน้มน้าวและประนีประนอมมากเกินไป ไม่ใช่การกดดันให้อีกฝ่ายยอมเข้าสู่การเจรจา.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES