เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. นี้ ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่งนายคณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ทั้งที่ อ.บ้านผือ ในช่วงเช้า อ.หนองหาน ในช่วงบ่าย และที่ อ.เมือง ในช่วงค่ำ

โดยแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงที่ร่วมการปราศรัยในวันนี้ ต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบายพรรคประชาชนสำหรับการเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี โดยนายคณิศร ได้ปราศรัยถึงนโยบาย 6 ด่วนที่จะทำให้สำเร็จภายใน 1 ปี โดยระบุว่า ในฐานะคนอุดรธานี ตนสัมผัสได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นความเจริญหรือการพัฒนาอุดรธานี ต่างก็ถูกแช่แข็งมาตลอด วันนี้ตนจึงมาขออาสาเป็นทางเลือกให้ชาวอุดรธานี โดยนอกจากนโยบาย 8 เสาหลักแล้ว ตนยังมีนโยบาย 6 ด่วนที่จะทำทันทีภายในปีแรก ได้แก่ 1.ทำให้ อบจ.อุดรธานี โปร่งใสตรวจสอบได้ อบจ.อุดรธานี มีงบประมาณปีละ 1.2 พันล้านบาท ตนจะทำให้ประชาชนเห็นตัวเลขทั้งหมด นำเข้าสู่ระบบออนไลน์ให้ประชาชนเห็นว่าเงินทั้งหมดเอาไปทำอะไรบ้าง 2.การทุจริตเป็น 0% โครงการและนโยบายที่ส่อให้เกิดการทุจริตตนจะไม่ทำ จะทำแต่โครงการที่ตรวจสอบได้ เป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ หน่วยงานไหนใน อบจ. ที่มีการทุจริต ตนจะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายทันที


3.นโยบายขนส่งสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนเดินทางลำบาก นักท่องเที่ยวมาเที่ยวยาก ถ้าตนได้เป็นนายก อบจ. จะทำให้เกิดขนส่งสาธารณะโดยรถเมล์ไฟฟ้า กำหนดเส้นทางเชื่อมโยงกลางเมืองอุดรธานี สนามบิน สถานีขนส่ง ไปสถานที่ท่องเที่ยว ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ รถออกตรงเวลา ถึงจุดหมายตรงเวลา ดูได้ด้วยระบบแอปพลิเคชัน กำหนดเวลาการเดินทางได้ 4.น้ำประปาใสดื่มได้ตลอดปี คณะก้าวหน้าที่ทำสำเร็จมาแล้วหลายแห่ง มีทั้งมีวิศวกรน้ำ สามารถเอาองค์ความรู้มาให้ อบต. ให้หมู่บ้าน มีเครื่องมือที่เป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้น้ำประปาใสสะอาดดื่มได้แล้วจริง แม้จะมีผู้สมัครคนหนึ่งบอกว่าทำไม่ได้ แต่คณะก้าวหน้าก็ทำสำเร็จ พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว


นายคณิศร กล่าวต่อว่า 5.ถนนปลอดหลุม ไฟสว่าง มีกล้องวงจรปิด โดยถนนในสังกัด อบจ. ที่ชำรุดทรุดโทรมและไม่ปลอดภัย อบจ. จะดำเนินการซ่อมให้เรียบร้อยภายในปีแรกทันที 6.แก้ปัญหายาเสพติดผ่านนโยบายชุมชนปลอดภัยไม่มียาเสพติด โดย อบจ. จะเป็นศูนย์กลางสนับสนุนงบประมาณให้ฝ่ายปกครองและเจ้าพนักงานจัดหาเครื่องมือในการตรวจสอบสารเสพติด และในการนำเอาคนติดยาเสพติดมาแยกเป็นผู้ป่วย ประสานกับโรงพยาบาลอำเภอและจังหวัด รวมทั้งสถานพยาบาลเอกชนที่เชี่ยวชาญในการนำไปรักษาบำบัด รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางในการประสานงานเพื่อการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ค้ายาเสพติด


นายคณิศร ยังกล่าวต่อว่า เรื่องที่มีการโจมตีใส่ร้ายป้ายสีตนนั้น ควรจะหมดเวลาได้แล้ว นี่เป็นเวลาของการเมืองใหม่ที่ควรเน้นการนำเสนอนโยบายให้ประชาชน ถ้าอยากเห็นการเมืองแบบตรงไปตรงมา ไม่กลับไปกลับมา ขอให้เลือกพรรคประชาชน ตนจะนำอุดมการณ์ แนวคิด และนโยบายของพรรคประชาชน มาทำให้อุดรธานีเป็นจังหวัดแรกในฐานะ อบจ. พรรคประชาชน


ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพูดถึงว่า ที่ตนกลับมาจากอเมริกาเพราะกลัวแพ้ แต่สำหรับนักการเมืองแบบตนนั้นไม่มีกลัวแพ้ เพราะแพ้มาเยอะแล้ว แต่ชนะมาก็แยะเหมือนกัน อย่างการเลือกตั้งที่อุดรธานี ปี 2562 อนาคตใหม่ได้ 1.4 แสนคะแนน เลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี ปี 2563 ได้ 1.8 แสนคะแนน เลือกตั้งปี 2566 ได้มา 2.2 แสนคะแนน นี่คือการพัฒนา


นายพิธา กล่าวต่อว่า ดังนั้นสำหรับพรรคประชาชน การลงแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้ ตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ ปี 2562 เราก็แพ้ที่อุดรธานี เขต 1 แต่ก็ไม่กี่คะแนน ต่อมาเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกลก็ชนะได้ สส.เขต 1 อุดรธานี เราถึงไม่กลัวแพ้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมมีแพ้มีชนะ คนชนะกลับมาแพ้ คนแพ้ก็กลับมาชนะได้ ไม่มีใครกลัวทั้งนั้น การทำงานแบบพรรคประชาชน คือการทำงานระยะยาว คู่แข่งอาจจะดูการเลือกตั้งต่อการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาชนดูไปถึง 3 การเลือกตั้งข้างหน้า การเมืองแบบพวกเราคือแข่งกับตัวเองทุกวัน และการต่อสู้อย่างเต็มที่ไม่ท้อแท้ถดถอย

นายพิธา ยังกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย หาเสียงเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน อบจ. คนเก่าเป็นมา 12 ปี เพิ่งมาบอกว่าจะทำน้ำประปาสะอาด แปลว่า 12 ปีที่ผ่านมาไม่สะอาดใช่หรือไม่ บอกว่าจะจัดการปัญหายาเสพติด แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาเจ้าพ่อยาเสพติด ทุนจีนสีเทา เมื่อปีก่อนหน้านี้ ก็มีเรื่องตั๋วตำรวจเพื่อไทย ตราบใดที่ยังมียาเสพติดจากต่างประเทศแล้วยังมีตั๋วตำรวจ ยาเสพติดก็แก้ไม่ได้ เป็นรัฐบาลมา 14 เดือน ราคายาบ้ายังเหมือนเดิม ตั๋วตำรวจยังมีหรือไม่ ขอให้ตอบให้กระจ่างด้วย


นายพิธา กล่าวต่อไปว่า มีคนกล่าวว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง แต่สำหรับตนแล้ว คนอุดรธานีไม่มีเจ้าของ อุดรธานีเป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตยซึ่งมีหลายเฉด บางคนเลือกพรรคเพื่อไทย บางคนเลือกพรรคก้าวไกล บางคนก็เลือกพรรคไทยสร้างไทย ดังนั้น แม้การแข่งขันครั้งนี้ เรามั่นใจแต่ก็ไม่ประมาท เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนการเลือกตั้งระดับชาติ ประชาชนอยู่ต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกลับมาลงคะแนนไม่ได้ แต่ตนก็ขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งกันให้มากที่สุด และขอสื่อสารไปถึงชาวอุดรธานีที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ขอให้ช่วยพรรคประชาชน บอกกลับมาที่ครอบครัว ถ้าอยากให้คนอุดรธานี มีงานทำ มีสาธารณสุขที่ดี มีการคมนาคมที่ดี จะได้กลับมาบ้านเสียที ส่งข้อความกลับมาให้ครอบครัวที่อุดรธานี ให้ไปเลือกตั้งเยอะๆ