เมื่อวันที่ 16 พ.ย.67 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ เขต 3 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรผ่านไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เรื่อง การขออนุญาตเข้าทําประโยชน์ในเขตป่าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งปัญหาเรื้อรังที่เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง การซ่อมแซมถนน หรือการพัฒนาแหล่งน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็คือ การขออนุญาตเข้าทําประโยชน์ในเขตป่าตามมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เพราะในมาตรา 4 (1) ได้บัญญัติไว้ว่า “ป่าหมายความว่าที่ดิน ที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน ทําให้ทางสาธารณะ คลองสาธารณะ” ถูกตีความเป็นป่าตามกฎหมายฉบับนี้ โดย อปท.ใน จ.ชัยภูมิ ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจในปี 67 จํานวน 152 โครงการ ที่จะต้องขออนุญาตเข้าทําประโยชน์จากกรมป่าไม้ และท้องถิ่นที่รับการจัดสรรได้ดําเนินการยื่นคําขอไปแล้วเกือบ 1 ปี แต่ข้อมูลล่าสุดเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าโครงการที่ได้รับการอนุญาตมีเพียง 73 โครงการ ส่วนอีก 79 โครงการยังไม่ได้รับอนุญาต และหลายโครงการไม่มีวี่แววว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ ซึ่งทางท้องถิ่นได้ทําเรื่องการเงินไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะสามารถเบิกจ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.68 หากเกินกว่านั้นโครงการทั้งหมดจะต้องตกไปไม่สามารถเบิกเงินได้
“หากกลางปี 68 โครงการ 79 โครงการนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้จะเกิดปัญหาใหญ่ เพราะหากท้องถิ่นที่รับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ 79 โครงการนี้ยังไม่แจ้งให้ผู้รับจ้างเข้าทํางาน ผมเชื่อว่าผู้รับจ้างจะฟ้องร้องท้องถิ่นนั้นอย่างแน่นอน เพราะมีการเซ็นสัญญาและวางเงินค้ำประกันสัญญาไปแล้ว และมีการกําหนดระยะเวลาทํางานที่ชัดเจนซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะที่จ.ชัยภูมิ ผมเชื่อว่าทั้งประเทศมีอีกหลายร้อยโครงการ หลายพันโครงการ จึงขอให้ รมว.ทส.ได้ตรวจสอบเรื่องนี้และเร่งดําเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด” สส.ชัยภูมิ กล่าว.