เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 พ.ย.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย ให้ปากคำในคดีของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ฉ้อโกงเงินของเจ๊อ้อย
นายรณณรงค์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาจำรายละเอียดไม่ได้ว่าทนายตั้ม เคยเล่าให้ฟังเรื่องใดบ้าง ที่ผ่านมาทนายตั้มเคยชวนตนเองไปกินไวน์ที่บ้าน แต่ตนเองก็ยังไม่เคยไป ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจเรื่องเงินค่าซื้อบ้านแต่ก็ไม่เคยถาม เพราะค่าจ้างทนายของทนายตั้มมีราคาแพง ซึ่งแม้จะค่าจ้างแพงแต่รายได้ก็ถือว่ากระโดดกว่าทนายทั่วไป เพราะหากเปิดสำนักงานไปได้สัก 10 ปี แล้วมีค่าจ้างราคานี้ก็ไม่แปลกใจ แต่เพิ่งมาเปิดสำนักงานและรับราคานี้ก็น่าแปลกใจอยู่
ทั้งนี้หากดูจากค่าจ้างในการเป็นทนายก็ยังอยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านราคานี้ได้ โดยบอกว่า “ทนายที่รวยกว่าทนายตั้มก็มี ยากดีมีจนวัดอะไรไม่ได้ คนบางคนทำสุจริตก็รวยมีตั้งเยอะแยะไป อย่างไรก็ตามจำไม่ได้ว่าทนายตั้มเคยเล่าเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังหรือไม่ เพราะไม่ได้สำคัญเป็นลักษณะของการนั่งกินข้าวและไม่เคยเล่าไม่เคยเปรยอะไรเกี่ยวกับเจ๊อ้อยเลย ส่วนตนเองก็ไม่ได้รู้จักมาก่อนเพิ่งมารู้จักพร้อมนักข่าวเช่นกัน
ส่วนวันที่ทนายตั้มและภรรยาถูกจับ ตนเชื่อว่าทั้งคู่ไม่ได้จะไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรีแต่คาดว่าน่าจะเป็นวัดแห่งหนึ่งในจันทบุรี ซึ่งวัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับตะเข็บชายแดน เพราะตนเคยไปปฏิบัติธรรมกับทนายตั้มที่วัดแห่งนี้มาก่อน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทนายตั้ม ยอมรับว่าทำให้วงการทนายความเสื่อมเสีย ส่วนความสัมพันธ์ของตนเองและทนายตั้มยืนยันว่า เป็นเพื่อนที่เคยสนิทกัน ส่วนการจะเข้าไปเยี่ยมทนายตั้มที่เรือนจำนั้นต้องรอให้สถานการณ์นิ่งก่อน
ขอบคุณเพจโหนกระแส