“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า กิจการร่วมค้า CKKM-CRRC CONSORTIUM ซึ่งมีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทนำ (ในฐานะที่ผู้บริหารบริษัทเป็นชาวขอนแก่น) และบริษัท CRRC Nanjing Puzhen จำกัด ผู้ประสานงานด้านการเงินโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จ.ขอนแก่น สายสีแดง ช่วงสำราญ-ท่าพระ ระยะทาง 26 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท
ยังอยู่ระหว่างเจรจาเงินกู้ระยะยาวกับสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งประเทศ และระหว่างประเทศ ที่จะให้บริษัท ขอนแก่นทรานซิสเต็มท์ จำกัด (KKTS) ใช้ดำเนินโครงการฯ ส่วนแนวโน้มว่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ และเมื่อใดนั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะสถาบันการเงินยังต้องการความชัดเจนว่าโครงการจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะพื้นที่ก่อสร้างยังเป็นปัญหาอยู่ รวมถึงเรื่องการค้ำประกัน ซึ่งโครงการนี้ไม่มีรัฐบาลให้การรับรอง
ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องที่ดินของศูนย์วิจัยข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อใช้สร้างโรงจอด และศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ประมาณ 200 ไร่ ยังอยู่ระหว่างเจรจา และทางจังหวัดกำลังพยายามหาที่ดินของราชการในพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมมาทดแทนศูนย์วิจัยข้าว แต่ในที่สุดต้องใช้ที่ดินของศูนย์วิจัยข้าว ในการทำ Depot ไม่สามารถย้ายไปในพื้นที่อื่นได้ เพราะเหมาะสมที่สุดอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างเส้นทาง และในอนาคตจะก่อสร้างแทรมอีก 3-4 เส้นทาง สามารถใช้ Depot ในพื้นที่ศูนย์วิจัยข้าวร่วมกันได้
กิจการร่วมค้า CKKM-CRRC CONSORTIUM ผู้ชนะการประมูลงานเหมาออกแบบ และก่อสร้างงานโยธา และโครงสร้าง พร้อมทั้งการผลิต ติดตั้งระบบแทรม และการพัฒนาเมือง ยังยืนราคาเดิมอยู่ และทุกฝ่ายยังยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป รวมถึงชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น ก็มีความต้องการ และสนับสนุนให้มีการก่อสร้างแทรม เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเมืองขอนแก่น จะช่วยแก้ปัญหาการจราจร เพิ่มความสะดวก เป็นทางเลือกหนึ่งในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแก่ประชาชน
หากไม่มีโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่อย่างแทรมมารองรับอนาคตก็จะเกิดปัญหา ปัจจุบันขอนแก่นมีให้บริการเพียงรถโดยสารซิตี้บัส, รถสองแถว และรถแท็กซี่ ทุกฝ่ายยังเดินหน้าแก้ปัญหา โดยตั้งใจ และคาดหวังให้โครงการนี้เกิดขึ้นให้สำเร็จ ซึ่งรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ กว่าจะเกิดขึ้นได้ก็ใช้เวลาเป็น 10 ปี สำหรับโครงการแทรมขอนแก่นนั้น เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 60 ผ่านมาเกือบ 8 ปีแล้ว หากเรื่องเงินกู้ และพื้นที่ทำ Depot ได้ข้อสรุปก็สามารถเดินหน้าก่อสร้างโครงการได้ทันทีซึ่งใช้เวลาก่อสร้างประมาณ3 ปี
โครงการแทรมขอนแก่น สายสีแดง ช่วงสำราญ-ท่าพระ มีระยะทาง 26 กม. 20 สถานี เป็นสถานีระดับดิน 12 สถานี และยกระดับ 8 สถานี มีศูนย์ Depot อยู่ภายในศูนย์วิจัยข้าวผลการศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท ไปจนถึง 25 บาท คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 6 หมื่นคนต่อวัน แผนเดิมจะเริ่มก่อสร้างปี 62 แล้วเสร็จ และเปิดบริการปี 65 เป็นรถไฟฟ้าในต่างจังหวัดสายแรกของประเทศไทยที่ดำเนินการโดยท้องถิ่น.
