เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ พาตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินการเร่งรัดติดตามคดีกรณีแชร์ลูกโซ่ หลอกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พบมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 8,000 คน เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท พบมีความเชื่อมโยงกับนักร้องเรียนหญิงคนดังอักษรย่อ ก.ไก่ โดยมีผู้เสียหายบางรายเครียดจนล้มป่วยเสียชีวิตเพราะหาทางออกไม่ได้ โดยมี พ.ต.อ.ชัยพร ออฟูวงศ์ รอง ผบก.ผก.นายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน
นายเกรียงไกรมาศ กล่าวว่า อยากให้บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ออกมาชี้แจง เพราะความเสียหายทะลุ 1,000 ล้านบาท ผู้เสียหายลงทุนตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักสิบล้าน บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องฆ่าตัวตาย วันนี้เหล่าผู้เสียหาย ร่วมจุดธูป 1 ดอก แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตด้วย สาเหตุที่คนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เพราะบริษัทดังกล่าว แอบอ้างบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังรายใหญ่ถือหุ้นในบริษัท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและมีการโอนเงินลงทุนจำนวนมาก จึงอยากให้บริษัทใหญ่ออกมาฟ้องบริษัทที่แอบอ้างด้วย นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมให้ผู้เสียหายนำโฉนดที่ดิน บ้าน ไปฝากเพื่อทำกำไรให้แต่ผลสุดท้ายก็ไม่ได้รับเงิน และบ้านถูกยึดและนำไปขายทอดทำให้บ้านตกไปในอยู่มือบุคคลอื่น
นางอาภรณ์ทิพย์ หรือ ป้าอู๊ด อายุ 74 ปี เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2566 มีนายหน้าขายที่ดิน ที่รู้จักมาก่อนแล้ว ได้มาชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทแชร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ อ้างว่าบริษัทแห่งนี้ให้เงินปันผลตอบแทนสูง ด้วยความที่ป้าเชื่อใจ จึงตัดสินใจลงทุนเป็นเงินสดก้อนแรกไป 300,000 บาท เมื่อเดือนมีนาคม 2566 และบริษัทจะโอนเงินปันผลกลับมา 3 ครั้งต่อเดือน เฉลี่ยแล้วเดือนละ 21,000 บาท พอเห็นว่าได้เงินปันผลกลับมาจริงๆ จึงเพิ่มยอดเงินลงทุนเข้าไปอีกรวม 1.6 ล้านบาท และมีการเอาที่ดินไปจำนอง เพื่อไปลงทุน รวมมูลค่าที่ดินกว่า 20 ล้านบาท หลังจากนั้น 7 เดือน บริษัทก็ไม่โอนเงินให้ ทำให้ตอนนี้ต้องเสียทรัพย์สินทั้งหมดไปแล้ว ญาติพี่น้องก็ตัดขาดความสัมพันธ์ ตอนนี้ต้องไปอาศัยอยู่กับลูกที่ห้องพักรายเดือน บางวันก็ต้องไปขอข้าวคนอื่นกิน และไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว แต่ที่ต้องการสู้ต่อเพราะต้องการเปิดโปงไม่ให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อแบบตนอีก
ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า เรื่องนี้เคยมีนักร้องเรียนหญิง ก.ไก่ ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำทีเป็นตัวกลางจะไปคุยกับบริษัทให้ แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไป และมีการนำชื่อคนแนะนำซึ่งเป็นแฟนของตัวเอง จากนั้นนักร้องคนดังกล่าวก็กลับไปเล่นงานแฟนของตนที่เป็นข้าราชการ จึงไม่รู้ว่านักร้องเรียนกับบริษัท มีความสัมพันธ์หรือรู้จักกันหรือไม่
ทั้งนี้ยังพบว่าบริษัทแชร์ลูกโซ่รายนี้ หากวงใกล้จะแตกก็จะไปเปิดบริษัทใหม่ ซึ่งมีการเปิดมาแล้ว 4 บริษัท และทุกครั้งผู้เสียหายจะไปแจ้งความ ก็อ้างว่าจะเยียวยาให้ แต่สุดก็เงียบ และผู้เสียหายบางส่วนไปแจ้งความยังพื้นที่ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะไม่ใช่คดีใหญ่และอยู่ในกระแส หรือให้ผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์ แต่เนื่องจากผู้เสียหายส่วนใหญ่อายุเยอะและแจ้งความออนไลน์ไม่เป็น จึงอยากให้ตำรวจรับแจ้งความไว้ก่อน เพราะผู้เสียหายกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ