เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พรรคประชาชน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจเลือกพื้นที่ที่จะส่งผู้สมัครนายก อบจ. ในแต่ละจังหวัด มีการคัดเลือกจากอะไร  โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เราร่วมตัดสินใจ สิ่งหนึ่ง คือตัวผู้สมัคร และนโยบายเป็นหลัก ตนคิดว่า เรื่องความพร้อมของผู้สมัคร และนโยบายต่าง ๆ เป็นส่วนสำคัญ  องค์ประกอบที่สอง คือเรื่องจุดยืน และอุดมการณ์ แน่นอนที่สุดว่า เราเป็นพรรคมวลชนที่เปิดกว้าง แต่จะทำอย่างไรให้เรามั่นใจว่า ทุกท่านที่มาร่วมหัวจมท้ายมาลงสมัครรับเลือกตั้งกับพรรคประชาชน เมื่อเข้าสู่อำนาจ ได้รับความไว้วางใจไปแล้ว จะสามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา

เมื่อถามถึงการตั้งเป้าว่าจะได้รับการเลือกตั้งไว้อย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างน้อยทุกภูมิภาค จะต้องชนะ อบจ.หนึ่งแห่ง ส่วนปัจจัยรองอื่นๆ จะต้องมีการวิเคราะห์เรื่องผลคะแนนเลือกตั้ง และคู่แข่งในพื้นที่ด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่นายศรายุทธิ์ กล่าวเสริมว่า ต้องการทุกภูมิภาค และเชื่อมั่นเหมือนกันว่า จะได้ทุกภูมิภาค

เมื่อถามถึงการที่นักการเมืองใหญ่อย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วยนั้น หากเป็นเช่นเดียวกันในพื้นที่อื่นจะมีการรับมืออย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือใครก็ตาม หรือพรรคใดก็ตาม ที่เป็นผู้ช่วยหาเสียง แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน คือการที่จะได้ติดตามรับฟังข่าวสาร นโยบายได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ยินดีถ้าจะมีแกนนำพรรคอื่นๆ ลงมาช่วยหาเสียงระดับท้องถิ่น จะได้คึกคักมากขึ้น

เมื่อถามต่อว่ากังวลหรือไม่ในการลงพื้นที่ของนายทักษิณ ซึ่งมั่นใจว่ากระแสดี อีกทั้งรัฐบาลยังจะมีนโยบายประชานิยมออกมาอีก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร ยังมั่นใจอยู่ว่าพรรคประชาชนมีโอกาสสูงที่จะได้รับการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ส่วนเรื่องนโยบายอื่นๆ แต่ละพรรคจะนำเสนออย่างไร ก็เชื่อมั่นเหมือนกันว่าเป็นสิ่งที่แต่ละพรรคจะนำเสนอได้ ขอให้ประชาชนติดตามรับฟัง และออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มักจะถูกนำมาโจมตี พรรคประชาชนมีจุดยืนอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากการนำเสนอนโยบายไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ ส่วนข้อพิพาททั้งหลาย ตนเชื่อว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่เงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้วด้วยซ้ำ ยืนยันว่า ไม่มีประเด็นนี้แน่นอน

สำหรับกรณีที่ผู้สมัครของพรรคประชาชนเคยทำงานให้กับ คสช. จะขัดกับจุดยืนของพรรคหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตัวผู้สมัครได้ตอบบนเวทีไปชัดเจนเพียงพอแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีแกนนำเพื่อไทย ระบุว่า พรรคประชาชนชกใต้เข็มขัด นายณัฐพงษ์ กล่าวยืนยันว่า คงไม่ใช่การชกใต้เข็มขัด แต่ตนมองว่าเราต้องออกมาใช้สิทธิ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เราถูกพาดพิง ถือว่าเป็นการชี้แจงกลับ ในสนามเลือกตั้ง ทุกคนที่ถูกพาดพิงก็ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ต้องการทุกภูมิภาคเชื่อมั่นเหมือนกันว่าจะได้ทุกภูมิภาค.