เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่จังหวัดชลบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร ในบริเวณสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ได้รับรายงานถึงสถานการณ์ผู้สูงอายุในพื้นที่ภาคตะวันออก มีจำนวนถึง 9 แสนคน และในอนาคตอันใกล้ คงแตะถึงหลักล้านคน โดยในระยะ 5-6 ปีนี้อัตราผู้สูงอายุจะเพิ่มมากขึ้นปีละประมาณ 5-6 แสนคน และหลังจากนั้น ก็จะเพิ่มจำนวนปีละกว่า 1 ล้านคน ทำให้ภาพรวมจำนวนผู้สูงอายุ ไม่เกิน 10 ปีจากนี้ จะเพิ่มจาก 13.5 ล้านคน เป็น 20 ล้านคน ในขณะที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ของกรมรวมถึงสังกัดอื่นๆ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ไม่สามารถรองรับได้อย่างเพียงพอ เราจึงต้องหามาตรการกลไกเข้ามาดูแลตรงนี้ให้มากขึ้น
นายวราวุธ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรมกิจการผู้สูงอายุ เคยมีโครงการพัฒนาพื้นที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จ.ชลบุรี ให้เป็นศูนย์ที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจร (senior Complex) แต่โครงการได้หยุดชะงักไปจนถึงขณะนี้ต้องยอมรับว่าไม่ทันยุคสมัย ดังนั้นอาจจะไม่ได้มีการนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ แต่จะมีการพัฒนารูปแบบอื่นๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับ โดยจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจจะมีการใช้พื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม รวมถึงการใช้พื้นที่นิคมสร้างตนเอง ในความดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
“งบประมาณปี 2569 ของกระทรวง พม. จะเน้นในการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้นเพราะถือเป็นฐานลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งปัญหาหลักไม่ใช่เฉพาะการเตรียมสถานที่รองรับเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุที่ยังสามารถทำงานได้ การจัดหาเทคโนโลยีนวัตกรรมรองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการสร้างนักบริบาลผู้สูงอายุซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจนถึงขณะนี้มีราวๆ 300 คน แต่ยอมรับว่ายังไม่เพียงพอ เนื่องจากสัดส่วนที่ควรจะเป็นของนักบริบาล 1 คนต้องดูแลผู้สูงอายุ 30 คน แต่ขณะนี้นักบริบาลผู้สูงอายุ 1 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุจำนวนมากเติมศูนย์เข้าไปอีกหลายตัวจากปัจจุบันนี้ นี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราจะต้องของบประมาณเพิ่มในการพัฒนานักบริบาล” รมว.พม. กล่าว.