เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ว่า จากการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชนที่จังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดอื่นๆ อีกหลายแห่งในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้สัมผัสถึงความรู้สึกสิ้นหวังของประชาชนทั้งความสิ้นหวังทางด้านการเมือง ที่ยังไม่รู้ทิศทางข้างหน้าจะเดินไปอย่างไร จะมียุบสภาหรือไม่ หรือความสิ้นหวังในด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่มีการสร้างอุตสาหกรรมหรือธุรกิจใหม่ๆ ช่วยให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงมาก นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสสอบถามประชาชนทั้งในตัวเมืองและระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ พูดคุยกับนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารไทย ต่างตั้งคำถามว่า เมื่อมีความรู้สึกสิ้นหวังเช่นนี้อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งสะท้อนออกมา จึงอาจกล่าวได้ว่าคนไทยขณะนี้เป็น “บุคคลล้มละลายทางความหวัง”

นายฐากร กล่าวต่อว่า อนาคตประเทศไทยยังมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ คนที่มีรายได้น้อยจะอยู่ได้อย่างไร และถ้าคนไทยสิ้นหวัง ก็น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดผลกระทบในทางลบต่อทิศทางข้างหน้าของประเทศ วันนี้รัฐบาลต้องเร่งคิดทำอย่างไร ที่จะปลุกให้คนไทยเกิดความหวัง มีโอกาส ให้ประชาชนมีความตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ารัฐบาลมีนโยบายเฮลิคอปเตอร์มันนี่ ด้วยการจะแจกเงินสด 10,000 บาท เฟส 2 เพิ่มเติมอีกสำหรับคนอายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นการแจกโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คนมีพลังแห่งความหวัง เพราะประชาชนได้รับรู้มาเป็นระยะๆ

“คนไทยเวลานี้อยู่ด้วยความหดหู่ใจ อยู่ด้วยความหมดหวัง แม้แต่ผมเองก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันเพราะมองไม่เห็นว่าประเทศในวันข้างหน้าจะมีเศรษฐกิจสดใส เด็กๆ ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม มีโอกาสก้าวหน้ามีงานเกิดขึ้นใหม่ๆ รายได้ดีๆ ครอบครัวมีความสุขถ้วนทั่ว ทุกคนมีคำถามเช่นนี้เหมือนๆ กัน แม้กระทั่งคนต่างชาติก็มองเห็นประเทศไทยเหมือนไร้ทิศทางไร้อนาคต ห้วงเวลา 1 ปีนับจากมีการเลือกตั้ง ประชาชนให้เวลารัฐบาลทำงาน ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้ซึ่งทำงานต่อเนื่องจากรัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน จะทำอย่างไรปลุกพลังชีวิตคนไทย และให้เกิดความคาดหวังความเชื่อมั่นกับรัฐบาลนี้ต่อไป” สส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

อย่างไรก็ดี ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบเร่งปลุกความหวังสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชน และรัฐบาลจะทำอะไรหรือออกมาตรการอะไร ต้องประกาศก่อนเปิดศักราชใหม่ ผมเสนอ 2 แนวทางคือ ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ส่วนจะเพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายอย่างไร เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปคิดเอง นโยบายแจกเงินสด 10,000 บาท ที่ทำนั้นผมเห็นว่าไม่เพียงพอ ประชาชนยังสิ้นหวังอยู่เหมือนเดิม จะต้องมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ทั้งความหวังทางด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงความหวังด้านคุณภาพชีวิต ความหวังในการขจัดปัญหายาเสพติดที่เต็มบ้านเต็มเมืองได้อย่างเห็นผล เมื่อใดคนเริ่มกลับมามีความหวัง เห็นโอกาสใหม่ๆ รัฐบาลก็จะเดินหน้าต่อไปได้

“วันนี้หากรัฐบาลเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ที่เชื่อมต่อกับโลกปัจจุบัน ทั้งด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ดาต้าเซ็นเตอร์ หรือสมาร์ตฟาร์มมิ่งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ก็ยิ่งช่วยปลุกความหวังและสร้างโอกาสให้กับคนไทย”