เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมที่ดิน ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจง ว่า ตามที่ ศาลปกครองกลางได้มีคําพิพากษา ตามคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ให้อธิบดีกรมที่ดิน มีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดําเนินการให้เป็นไปตามคําพิพากษา โดยให้การรถไฟฯ (ผู้ฟ้องคดี) ร่วมกับ คณะกรรมการสอบสวนฯ ทําการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯ อธิบดีกรมที่ดิน ได้มีคําสั่งที่ 1195-2566 ลงวันที่ 12 พ.ค. 66 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เป็นการปฏิบัติตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง และได้รายงานสรุปผลการรังวัดนําชี้แนวเขตของคณะทํางานร่วมระหว่าง สํานักงานที่ดิน จ.บุรีรัมย์ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรังวัดตรวจสอบตําแหน่งขอบเขตโดยรอบ และจัดทําแผนที่ทางกายภาพเพื่อประกอบการพิจารณาแผนที่ ซึ่งได้จากการรังวัดของคณะทํางานร่วม ระหว่างสํานักงานที่ดิน จ.บุรีรัมย์ และการรถไฟฯ เป็นการรังวัดตามการนําชี้ของผู้แทนการรถไฟฯ โดยไม่มีเอกสารหลักฐานทางกฎหมายอ้างสิทธิใดๆ ที่ระบุได้ว่าเป็นแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตสร้างทางรถไฟฯ พ.ศ. 2462 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินฯ เพื่อสร้างทางรถไฟ พ.ศ. 2464 เพื่อประกอบการนําชี้ ในขณะทําการรังวัด ได้มีราษฎรในพื้นที่และส่วนราชการคัดค้านไม่ยอมรับการนำชี้ของผู้แทนการรถไฟฯ เนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐานที่การรถไฟฯ อ้างสิทธิตามกฎหมาย เมื่อคณะทํางานร่วมฯ ดําเนินการจัดทําแผนที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มีการส่งข้อมูลการรังวัดพร้อมหลักฐานการคัดค้านของราษฎร และส่วนราชการต่างๆ ที่คัดค้านให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ตามมาตรา 61 ใช้ประกอบในการพิจารณา และได้รายงานกรมที่ดินทราบ

กรมที่ดิน ขอยืนยันว่า ในการดําเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความใน มาตรา 61 ได้ดําเนินการครบถ้วนถูกต้องตามคําพิพากษาศาลปกครอง และทําการตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณเขากระโดง เพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟฯ ตามกฎหมายและคําพิพากษาศาลปกครองกลางทุกขั้นตอนแล้ว โดยอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนตามความใน มาตรา 61 มีดังนี้ 1.ดําเนินการสอบสวนพยานหลักฐานให้ได้ความว่า ได้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ รับรองการทําประโยชน์ไปโดยคลาดเคลือนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร 2. มีอำนาจเรียกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง มาพิจารณา กรณีไม่อาจเรียกเอกสารให้บันทึกเหตุผลไว้ กรณีได้รับเอกสารให้ออกใบรับ (ท.ด.53) ไว้เป็นหลักฐาน

3. แจ้งผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้านการเพิกถอนหรือแก้ไข 4. รายงานผลการสอบสวนต่ออธิบดีกรมที่ดิน หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในกําหนดระยะเวลา 5. ขอขยายระยะเวลาการสอบสวน กรณีคณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่สามารถดําเนินการ สอบสวนให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา โดยจะสั่งให้ขยายระยะเวลาการสอบสวนได้ตามความจําเป็น 6. ขอเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสอบสวนฯ กรณีมีเหตุจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกรรมการสอบสวน.